ได้มีการติดประกาศที่สร้างความงุนงงให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง โดยประกาศดังกล่าวติดไว้ที่ แผนกจ่ายยาของโรงพยาบาลดังกล่าว มีใจความว่า "ประกาศ.... ตั้งแต่ 30 ต.ค.57- 31 ธ.ค.58 เจ้าหน้าที่ผู้หญิงทุกท่านให้กินยาคุมกำเนิด (ห้ามท้อง) ถ้าท้องให้ลาออกไปเลย" โดยในประกาศดังกล่าว ยังให้เจ้าหน้าที่เซ็นชื่อรับทราบในแผ่นประกาศด้วย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเซ็นชื่อรับทราบกว่า 30 คน พร้อมกำกับวันเดือนปีที่ลงชื่อรับทราบไว้ด้วย
จึงจำเป็นต้องบังคับไม่ให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ในช่วงนี้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ขาดแคลนเจ้าหน้าที่อีก แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าการออกคำสั่งดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน อีกทั้งขัดกับกฏหมายแรงงานที่อนุญาตให้ลาคลอดได้
โดยนพ.อุดม เชาวรินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ และโรงพยาบาลราชวิถีไม่เคยมีนโยบายจำกัดสิทธิของบุคคลากรแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เพราะแหล่งที่มาของข่าวในสังคมออนไลน์ ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม จะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นคำสั่งภายในหน่วยงานเองหรือไม่
ตนขอยืนยันว่า โรงพยาบาลไม่มีการห้ามเจ้าหน้าที่หญิงตั้งท้องอย่างแน่นอน เนื่องจากการตั้งท้องถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล ขณะที่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวถึงประกาศเรื่องห้ามท้อง ว่า การมีคำสั่งห้ามท้องนั้นเป็นการละเมิดสิทธิเนื้อตัวร่างกาย และสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งไม่สามารถกำหนดและออกกฎในลักษณะเช่นนี้ได้ เนื่องจากเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่ห้ามให้เพศหญิงตั้งท้อง โดยในบางสังคม สามียังไม่สามารถบังคับให้ภรรยามีหรือไม่มีลูกได้เลย อีกทั้งในกฎหมายแรงงาน ยังระบุว่าไม่สามารถออกกฎในลักษณะดังกล่าวได้ ในสถานที่ทำงาน
กล่าวว่า ตอนนี้มีกฎหมายลาคลอด ในกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากมีคำสั่งหรือข้อห้ามออกมาในลักษณะเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย นายจ้างที่ออกคำสั่งออกมาต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายระบุอย่างชัดเจนว่าผู้หญิงที่ท้องสามารถลาคลอดได้ 90 วัน ไม่ว่าจะลาก่อนหรือหลังคลอดก็สามารถทำได้ ซึ่งเรื่องนี้กรมคุ้มครองสวัสดิการแรงงาน และกระทรวงแรงงานต้องเข้าไปตรวจสอบและดูแล หากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงต้องดำเนินคดีกับนายจ้าง และหากเคยมีคนถูกบังคับให้ลาออกจากกรณีนี้ ก็สามารถเรียกร้องเงินชดเชยได้
โดยก่อนหน้านี้ ที่สิทธิแรงงานอนุญาติให้เพศหญิงลาคลอดได้เพียง 30 วัน เคยมีหญิงตั้งครรภ์ที่ทำงานต้องรัดหน้าท้องเวลาทำงาน แอบคลอด ทำแท้ง หรือบางคนต้องแอบมีลูกแบบหลบๆซ่อนๆ ซึ่งส่งผลกระทบเรื่องปัญหาสุขภาพตามมากับหญิงเหล่านั้น