ลูกชายยันพ่อแม่ไม่ฆ่าตัวตายแน่!! เหตุรถไฟชนคัมรี่

ลูกชายยันพ่อแม่ไม่ฆ่าตัวตายแน่!! เหตุรถไฟชนคัมรี่-เผยก่อนเกิดเหตุยังส่งไลน์สถานที่เที่ยวให้ดู

 จากกรณีเหตุสยองเมืองเพชร รถไฟขยี้เก๋งคัมรี่ของหน.ฝ่ายบริหารร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์

ที่ขับมากับเมียดับสยอง 2 ศพ สงสัยเจตนาฆ่าตัวตาย เพราะมีภาพวงจรปิดจับภาพ ขับมาจอดนาน 20 นาที แล้วเหยียบคันเร่งพุ่งให้รถไฟชนดื้อๆ ก่อนไฟลุกท่วม ตร.ตั้งปมอาจเป็นการฆ่าตัวตายหรืออุบัติเหตุ รถไฟสายใต้เป็นอัมพาตทันที จนท.รฟ.เร่งกู้เปิดเดินรถตามปกตินั้น
 
 ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายวริช รัตนะ บุตรชายนายวิทยา และนางรจนวรร รัตนะ สองสามีภรรยาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถไฟชน

บริเวณทางตัดข้ามรถไฟบ้านนาแค ม.5 ต.ต้นมะม่วง อ.เมือง จ.เพชรบุรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ่อแม่ของตนอาจตั้งใจขับรถให้รถไฟชนเพื่อฆ่าตัวตาย ว่า เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ ญาติและคนรู้จักทุกคนไม่มีใครเชื่อ เพราะทั้งสองตั้งใจจะไปร่วมงานแต่งที่ จ.ขอนแก่น โดยจะแวะรับลูกสาวและเยี่ยมยายที่กรุงเทพฯ ก่อน ซึ่งทั้งคู่เดินทางไปกรุงเทพฯ เป็นประจำ แต่วันเกิดเหตุต้องการแวะซื้อของฝากที่ตัวเมืองเพชรบุรี จึงขับออกนอกเส้นทางที่เคยขับปกติ และช่วงเที่ยงก่อนเกิดเหตุยังโทรศัพท์สอบถามเส้นทางจากคนอื่นๆ รวมถึงถามเพื่อนๆ ว่าต้องการของฝากอะไรหรือไม่ จึงไม่ใช่การฆ่าตัวตายอย่างเด็ดขาด

 นายวริช กล่าวอีกว่า ในการเดินทาง พ่อกับแม่จะมีไอแพดและจีพีเอสตัวหนึ่งใช้หาเส้นทาง

และจากภาพเหตุการณ์จะเห็นว่า เมื่อมาถึงทางรถไฟรถดังกล่าวได้จอดเข้าข้างทางและเปิดไฟกระพริบ ซึ่งเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากกำลังตั้งระบบจีพีเอสอยู่ นอกจากนี้บริเวณที่เกิดเหตุยังไม่มีไม้กั้น และไม่มีสัญลักษณ์เตือน เมื่อเห็นรถคันหน้าขับข้ามทางรถไฟไป ก็เป็นสัญชาตญาณของคนขับตามหลังที่ออกรถตามไปด้วย โดยที่พ่อกับแม่อาจไม่ทันได้สังเกตว่ามีรถไฟวิ่งมา

 ส่วนการหลับในก็เป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งคู่ออกเดินทางล่วงหน้าแล้ววันหนึ่ง

โดยออกจาก จ.นธาวาส แล้วพักค้างคืนที่ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นก็ขับไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร นอกจากนี้พ่อยังเป็นคนร่าเริง ส่วนแม่ยังเป็นอาจารย์ที่มีคนเคารพนับถือ ก่อนเกิดเหตุยังถ่ายรูปกับสถานที่เที่ยวต่างๆ แล้วนำมาโพสต์ให้ญาติๆ ดูทางไลน์ โดยทั้งคู่ยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าตัวตาย ตนจึงวอนขอความเป็นธรรมให้พ่อแม่ด้วย

 ส่วนการบำเพ็ญกุศลศพ ขณะนี้กำลังเคลื่อนศพกลับมาที่ จ.นราธิวาส และคาดว่าจะมีพิธีฌาปนกิจไม่เกินวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. นี้

  เวลา 09.00 น. นายมนต์ชัย รัตนะ ผอ.สถาบันน้ำ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นน้องชายของนายวิทยา ผู้ตาย พร้อมญาติได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุบริเวณจุดที่รถไฟกับรถเก๋งของผู้เสียชีวิตหยุดและเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคันจากนั้นก็ได้ทำพิธีเรียกวิญญาณของบุคคลทั้ง 2 ให้เดินทางกลับบ้านพร้อมกัน โดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดใกล้จุดเกิดเหตุมาทำพิธี ต่อมาเวลา 09.30 น. ของวันเดียวกัน นายมนต์ชัย รัตนะ พร้อมญาติได้เดินทางมารับศพทั้ง 2 ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง

 นายมนต์ชัย รัตนะ ผอ.สถาบันน้ำ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองเดินทางมาจากนราธิวาส และมาพักที่ชุมพรหนึ่งคืน

หลังจากออกจากชุมพรจะไปรับลูกสาวที่อยู่กับน้าที่กรุงเทพฯ เพื่อจะไปงานแต่งที่จังหวัดขอนแก่น แต่เมื่อผ่านเพชรบุรีต้องการจะไปซื้อของฝากที่หาดปึกเตียน โดยนายวิทยา พี่ชาย ได้เปิด จีพีเอส ตรวจสอบเส้นทาง และก็โทรถามทางเพื่อไปหาดปึกเตียนตลอดเวลา ส่วนที่เดินทางมาเส้นทางดังกล่าวคาดว่า จีพีเอส น่าจะนำทางมาทางนี้ และช่วงก่อนเกิดเหตุก็มีการจอดรถเพื่อตรวจสอบเส้นทางจาก จีพีเอสดังกล่าว และโทรคุยกับน้องชายตลอดเส้นทาง โดยส่งรูปให้ดูสถานที่ต่างๆ ที่ผ่านไป ส่วนกล้องวงจรปิดที่ดูเหมือนว่ามีการเร่งเครื่อง คาดว่าผู้เสียชีวิตมองไม่เห็นรถไฟ เมื่อเห็นในระยะใกล้จึงเร่งเครื่องเพื่อที่จะให้พ้น แต่ก็ไม่พ้นจนเสียชีวิตดังกล่าว และไม่ติดใจการตายของญาติทั้งสองยืนยันไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เพราะครอบครัวรักกันดีทุกคน ลูกผู้ตายทั้งสองก็จบวิศวะฯ มีงานการทำดีทุกคน โดยจะนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดนราธิวาส

 ร.ต.ท.วิเชียร อุปนันท์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี กล่าวว่า จากการสอบสวนญาติผู้ตายทั้ง 2 คน

เบื้องต้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่การจงใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากทางญาติพี่น้องยืนยันตรงกันว่า ทั้ง 2 คน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงินหรือเรื่องใดๆ ความรักก็ปกติ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้ง 2 คน กำลังเดินทางไปร่วมงานแต่งงานโดยออกเดินทางมาจากบ้านนราธิวาส มาพักค้างคืนที่จังหวัดชุมพร 1 คืน ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างทางได้ติดต่อพูดคุยกับทางญาติตลอด
 
คาดว่าทั้ง 2 คน น่าจะหลงเส้นทาง และกำลังเปิดเครื่องหาเส้นทางพร้อมโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับญาติตลอดเวลา ทำให้ทราบว่าไม่น่าจะเป็นการจงใจทำร้ายตัวเองและภาพวงจรปิดที่เห็นทั้ง 2 คน จอดรถนานผิดปกติ นั้น ทางญาติยืนยันว่าทั้ง 2 คน กำลังเปิดเครื่องจีพีเอสเพื่อหาเส้นทางเดินทางไปยังเส้นทางถนนหาดเจ้าสำราญเพื่อซื้อของฝากและวิ่งตามถนนเลียบชายทะเลกระทั่งมาเกิดเหตุน่าโศกเศร้าขึ้นดังกล่าว