สุดทนชีวิตชาวนา โดนข่มเหง ยิ่งทำยิ่งจน ชาวนาสุรินทร์ผูกคอตาย

วันที่ 27 ต.ค.ร.ต.อ.กฤติพงษ์  หงษ์สูง ร้อยเวร สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ 

รับแจ้งมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 151 บ้านประทุน ม.4 ต.แตล อ.ศีขรภูมิ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศีขรภูมิ หน่วยวีอาร์กู้ชีพตำบลแตล ที่เกิดเหตุพบศพชายผูกคอตายกับคานไม้บ้าน ทราบชื่อผู้ตายคือนายเมา  เกษรแก้ว อายุ 61 ปี เสียวิชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ตรวจสอบภายในร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด

จากการสอบสวนทราบว่า นายเมา มีโรคประจำตัวและมีอาการเครียดมักบ่นกับนางเสมอ เกสรแก้ว อายุ 68 ปี ภรรยา มาหลายวันแล้ว

ว่าเกี่ยวข้าวไม่ได้น้ำก็ท่วมนาเนื่องจากว่าฝนตกติดต่อกันมานานหลายวัน ประกอบกับได้มีชาวบ้านได้นำข้าวที่เกี่ยวไปแล้วนำไปขายที่ตลาด ถูกนายทุนกดราคาว่าเปียกน้ำบ้าง  ความชื้นสูงบ้าง และเมล็ดข้าวมีสีดำเพราะจมน้ำ ทางโรงสีไม่รับชื้อ หลายปัญหาต่างๆนานา 

พร้อมบอกกับภรรยาว่าคงจะอยู่ด้วยได้ไม่นาน เป็นอยู่อย่างนี้คงต้องตายแน่

ราคาข้าวก็ต่ำ สภาพความเป็นอยู่นับวันจะย่ำแย่ถูกกดขี่ข่มเหงทุกอย่างไม่มีอะไรที่ดีขึ้นยิ่งทำก็ยิ่งจน ทำนามีแต่ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง และเงินคงจะไม่เพียงพอค่าใช้หนี้ ไหนจะมีค่าเกี่ยวข้าวไร่ละ 500-600 บาท ทำนา 10 ไร่ หาเงิน จ่ายค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าจ้างไถ ค่าเก็บเกี่ยวก็หมดแล้ว เช้ามาก็มาพบนายเมา  ผูกคอตายกับคานไม้ อยู่หน้าบ้านดังกล่าว

ญาติๆนายเมา กล่าวว่า นายเมา กับ ยายเสมอ  อยู่ด้วยกัน 2 คน ทำมาค้าขายในหมู่บ้าน และทำนา มานาน

ประกอบกับช่วงระยะหลังมีโรคประจำตัวและเครียดกับการทำนา สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีพายุฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและมีข้าวหอมมะลิที่เหลืองสุกงอมเต็มท้องนา ใกล้เก็บเกี่ยว แล้ว นายเมามีที่นาอยู่ประมาณ10 ไร่ มีญาติพี่น้องลงเกี่ยวข้าว ได้ก็นำไปขายและนำมาตาก ตามถนน นายเมา  ก็อยากจะลงเก็บเกี่ยวแต่เนื่องจากว่าฝนตกลงมาน้ำท่วมขังรถเกี่ยวไม่สามรถลงไปเกี่ยวข้าวให้ เกรงว่ารถเกี่ยวข้าวจะติดจึงบ่นน้อยใจกลัวข้าวที่จมน้ำจะเน่าเสีย หรือข้าวจะมีเมล็ดสีดำเพราะข้าวจมน้ำ ขายไม่ได้ราคา พอตื่นเช้าขึ้นมาก็พบนายเมา ใช้เชือกผูกคอลาตายเสียแล้ว