น้องปาล์มมีเนื้อสมองน้อย หมดโอกาสโตเหมือนคนปกติ

นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าววานนี้ (15 พ.ค.) ถึงกรณี ด.ญ.กชกร วรพณิชยวงศ์ หรือ น้องปาล์ม

เข้ารักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

มีขนาดศีรษะโตผิดปกติวัดรอบศีรษะได้ 88 เซนติเมตร เข้าลักษณะเป็นโรคไฮโดรเซฟฟาลัส หรือโรคที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในสมอง พบคนไข้ศีรษะโตได้ปีละนับ 100 รายยังไม่ทราบสาเหตุของโรคที่ชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นความพิการตั้งแต่กำเนิดหรือเลือดออกในสมอง เนื้องอกในสมอง

กรณีของน้องปาล์มพบว่า

น่าจะพิการตั้งแต่กำเนิด เนื่องจากผลเอกซเรย์พบว่า มีเนื้อสมองน้อยมาก ไม่สามารถยืน เดินหรือพูดได้ แต่การดูแลป้องกันแผลกดทับที่ศีรษะ ป้อนอาหารไม่ให้เด็กสำลัก พบว่าเคยมีเด็กศีรษะโตอายุยืนยาวได้ถึง 20-30 ปี รายที่เนื้อสมองมีมาก พบว่าเจริญเติบโตไปเรียนหนังสือได้ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว

ด้านนพ.เศกสันต์ ศรีมหาราชา

แพทย์ศัลยกรรมสมอง กล่าวว่า กระดูกกะโหลกศีรษะของน้องปาล์มพัฒนาตามวัยการผ่าตัดกะโหลกศีรษะมีความเสี่ยงต่อการเสียเลือดและติดเชื้อสูง โดยน้องปาล์มมีน้ำหนักแค่ 18 กิโลกรัม

การเสียเลือดเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เด็กช็อกเสียชีวิตได้

เมื่อถามว่า เด็กที่มีกะโหลกศีรษะโตมีอายุขัยเป็นอย่างไร นพ.เศกสันต์ กล่าวว่า แล้วแต่เนื้อสมอง ถ้าสมองไม่เสียหายส่วนใหญ่จะสามารถเรียนรู้ได้ ถ้าเนื้อสมองถูกทำลายจะพิการ กรณีของน้องปาล์ม พบว่ามีเนื้อสมองเฉพาะส่วนที่เป็นก้านสมองทำหน้าที่สั่งการให้กิน รับรู้แต่ลุกเดินไม่ได้

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ศีรษะโต

มาจากความผิดปกติของยีนส์ สมองไม่เจริญเติบโตมีน้ำคั่งในสมอง เกิดจากโครโมโซมผิดปกติทารกที่เป็นแบบนี้อาจแท้งเองตามธรรมชาติหรือเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด นพ.เศกสันต์ กล่าว และว่า หากศีรษะโตเพราะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ความดันในสมองสูงการผ่าตัดเพื่อระบายน้ำออกจะช่วยลดขนาดศีรษะได้ดี

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ