ลุงสอิ้ง ถึงศิริราช ได้กำลังใจล้น

ลุงสอิ้งถึงศาลาศิริราช 100 ปี ทูลเกล้าฯถวายกระถางดอกกล้วยไม้แวนด้าสีเหลืองพร้อมลงนามถวายพระพร

เวลา15.40 น. ลุงสอิ้ง หาญประโคน นักวิ่งวัย 63 ปี เดินทางถึงศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช หลังจากออกวิ่งสลับเดินจาก อ.เด่นชัย จ.แพร่ มายังโรงพยาบาลศิริราช เป็นเวลาถึง 11วัน ระยะทาง 533 กม. เพื่อลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน และประชาชนจำนวนมากที่มาเฝ้ารอและให้กำลังใจ แน่นศาลา

ลุงสะอิ้ง ได้สักการะพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จขพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ก่อนกราบถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทูลเกล้าฯถวายกระถางดอกกล้วยไม้แวนด้าสีเหลือง พร้อมลงนามถวายพระพร หลังจากลงนามถวายพระพร

ลุงสะอิ้ง กล่าวถึงความรู้สึกว่า ดีใจและตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ตัวเองมีกำลังใจเพราะทุก ๆ ส่วน

ตั้งแต่เริ่มวิ่งมาวันที่ 12 ตุลาคม เดินวิ่งแรก ๆ รู้สึกท้อหมดกำลังบ้าง เพราะลุกจากที่นอนไม่ได้ ปวดขา เล็บนิ้วเท้าระบมเหมือนจะหลุด จึงเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะแทนรองเท้าผ้าใบ การเดินในช่วงแรก ๆ เป็นไปด้วยความลำบาก เพราะรถเยอะ เดินลำบาก แดดร้อน แต่ว่าด้วยใจรักจึงเดินต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงจังหวัดพิษณุโลก มาพักที่หอพักข้างมหาวิทยาลัยนเรศวร ตอนนั้นมีประชาชนเข้าสอบถามตลอดทางว่าจะไปไหน เมื่อบอกว่าจะเดินวิ่งไปโรงพยาบาลศิริราช เพื่อถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กำลังมีพระอาการประชวรอยู่ ให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรง จึงมีประชาชนจำนวนมากฝากดวงใจมาถวายพระองค์ด้วย ตั้งแต่ลูกเด็กจนถึงคนเฒ่าชรา กระทั่งคนชราที่นั่งรถเข็น

ลุงสอิ้ง กล่าวต่อว่า เมื่อเดินทางมาถึงถึงนครสวรรค์ จึงมีร่วมกตัญญูต้อนรับเข้าเมือง และคอยดูแลเส้นทางให้ตลอด

ทำให้รู้สึกชุ่มชื่นใจขึ้นมาก ที่มีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งข้าราชการ และตำรวจคอยต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี มีกำลังใจล้นพ้นมหาศาล ขอให้อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกนี้บันดาลให้ท่านทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ตลอดมานั้นตัวเองตั้งใจรักษาศีล 5 ทำดีเพื่อในหลวงอยู่แล้ว เพราะเบียดเบียนใคร เป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่สอนแต่ให้ทำดีไม่ทำชั่ว เช่นเดียวกับในหลวงที่พระองค์ทรงสอนประชาชนให้ทำแต่ความดี

ส่วนกระถางกล้วยไม้แวนด้าสีเหลืองที่ลุงสอิ้งนำมาทูลเกล้าฯ ถวาย

ลุงเผยว่า กล้วยไม้ดูแล้วสดใสงดงามสะอาดตาสะอาดใจอยู่ได้นานแน่นอน ไม่เหมือนกับการหักกิ่งหักใบมาตกแต่งอยู่เพียงสักพักก็เหี่ยวเฉาดูแล้วไม่สดใส จึงนำดอกกล้วยไม้มาทั้งราก ทั้งใบ ทั้งดอก เมื่อมีน้ำหล่อเลี้ยงสามารถอยู่ได้ตลอดทั้งปี

หลังจากนั้ลุงสอิ้งเผยว่าจะพักอยู่ที่บ้านย่านลาดกระบังก่อน เพื่อดูอาการเมื่อยล้า

 หากหายเหนื่อยแล้วจะเดินทางกลับไปทำงานที่เด่นชัยต่อ ส่วนเงินที่ได้รับบริจาคมานั้นยังไม่ได้นับว่าได้ทั้งหมดเท่าไร มีทั้งคนที่ฝากมาทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง และคนที่ให้ใช้ส่วนตัว แต่ลุงตั้งใจไว้ว่าจะให้กับโรงพยาบาลศิริราช