รวบจอมขมังเวทย์-เมียสาว ขนกัญชา-โวดูฤกษ์จนรอดจับกุมทุกครั้ง!!

รวบจอมขมังเวทย์-เมียสาว ขนกัญชา-โวดูฤกษ์จนรอดจับกุมทุกครั้ง!!

 เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ต.ค. พ.ต.ท.อานันท์ วิชรเศรษฐสมิตร สว.ส. ทล.2 กก.4 บก.ทล.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขอนแก่น  ได้แถลงผลการจับกุมตัว นายชาฤทธิ์ บุริขันธ์ อายุ 37 ปี อยู่ ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม และ นส.ศิริพร พาพรม อายุ 22 ปี ภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส ที่ทางหลวงขอนแก่น โดยมีของกลาง 1.กัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 327 แท่ง น้ำหนักประมาณ 327 กก. มูลค่าในประเทศไทย 5 ล้านบาท 2.กระสอบปุ๋ยสีขาว 6 ถุง 3. ผ้าคลุมรถสีเขียวขนาดใหญ่ 1 ผืน 4.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีแดง หมายเลขทะเบียน ผษ – 8437 นครราชสีมา ติดสติกเกอร์ ทหาร – ตำรวจ 4 เหล่าทัพด้านหลัง ใกล้กับสติกเกอร์ข้อความว่า “ร้านศิริพรแก๊ส” ศูนย์จำหน่าย–ซ่อมเตาแก๊สยี่ห้อดังทุกรุ่น และกระจกหน้ารถมีสติกเกอร์ปีกร่มติดอยู่ด้านซ้าย 5.โทรศัพท์มือถือของนายชาฤทธิ์ และ น.ส.ศิริพร คนละ 1 เครื่อง

 พ.ต.ท.อานันท์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอนแก่น สืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนกัญชาจากริมแม่น้ำโขงในเขต จ.นครพนม เข้ากรุงเทพฯ จึงได้ตั้งด่านจุดตรวจ – จุดสกัด อยู่บริเวณ ถ.มิตรภาพขาเข้าขอนแก่น ระหว่าง กม.378 – 379 ต.สะอาด อ.น้ำพอง จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวติดฟิล์มมองไม่เห็นด้านใน นอกจากนี้มีสีรถคล้ายรถยนต์ของตำรวจ และติดสติกเกอร์สี่เหล่าทัพด้านหลัง ปีกร่มของทหาร – ตำรวจ ด้านหน้า ซึ่งตรงกับสายลับแจ้งมา จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น

 พบว่านายชาฤทธิ์ เป็นคนขับรถแต่งตัวครึ่งท่อนคล้ายทหารโดยมีกางเกงขายาวทหาร เสื้อยืดภายในสีขาว เสื้อแจ็กเก็ตสีดำสวมทับอยู่ และน.ส.ศิริพรภรรยานั่งโดยสารมาด้วย เมื่อมาตรวจที่กระบะท้ายที่มีผ้าคลุมไว้พบกัญชาแห้งอัดแท่งบรรจุอยู่ในถุงดำขนาดใหญ่ จำนวน 11 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ยจำนวน 6 ถุงใหญ่ จำนวน 327 แท่ง น้ำหนักประมาณ 327 กก.

 จากการสอบสวน นายชาฤทธิ์ ทราบว่า ตนเองสึกจากพระมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และมาได้ น.ส.ศิริพรเป็นภรรยา โดยเปิดร้าน “ศิริพรแก๊ส” อยู่ที่ อ.เมืองนครพนม เมื่อประมาณต้นปี 2557 ได้รับการว่าจ้างจากนายเป็ด ไม่ทราบชื่อจริง-สกุลจริง อายุประมาณ 36 ปี โดยโทรศัพท์ให้นำกัญชาจากริมแม่น้ำโขงในเขต อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เพื่อลำเลียงกัญชาจำนวนดังกล่าวไปส่งที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะมีคนมารอรับและขับต่อไปส่ง ในเขต กทม.และขับไปที่จังหวัดแห่งหนึ่งในภาคใต้ โดยให้ค่าจ้างเป็นเงิน 80,000 บาท

 การลักลอบขนกัญชาครั้งนี้ตนได้ดูฤกษ์ยามอย่างดีว่าจะรอดจากการจับกุม โดยอำพรางตนเองเป็นทหารครึ่งท่อน ดังนั้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ใช้รถยนต์ปิกอัพของตนโดยมีภรรยานั่งไปด้วย จอดรับกัญชาที่สวนยางพาราของนายเป็ด เขตบ้านนามะเขือ ต.นามะเขือ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แล้วนายเป็ดโทรศัพท์มาสั่งการให้เดินทางได้ โดยจะมี นางออ ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนมุกดาหารนำทาง พร้อมสำรวจเส้นทางล่วงหน้าคอยแจ้งเหตุเมื่อพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะหยุดพัก จนกว่าด่านตรวจจะเลิก จึงเดินทางต่อไปในแต่ละครั้งที่พบด่าน กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

 นายชาฤทธิ์ บอกอย่างไม่สะทกสะท้านอีกว่า ตนเป็นพระเก่งวิชาอาคม ดูฤกษ์ยาม ฤกษ์ผานาทีมาก่อน ทุกครั้งดูฤกษ์ยามมาจะพ้นการจับกุมทุกครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 2557 ที่ผ่านมาทำมาหลายครั้งจนจำไม่ได้แต่ละครั้งได้เงินมาไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นบาท สูงสุด 1 แสนบาท จนสามารถเปิดร้านขายแก๊สโดยใช้ชื่อภรรยา และมีรถยนต์ปิกอัพ 2 คัน ใช้เงินแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้าน เพื่อให้เป็นลูกน้อง และไปทำงานติดตั้งแก๊สให้ พร้อมพาเที่ยวลักษณะเสี่ย โดยตนจะรับจ้างส่งกัญชาอย่างน้อยเดือนละ 4 ครั้ง มาครั้งนี้ก็ถูกจับกุม แถมยังบอกด้วยว่าหากทำงานสุจริตคงไม่สามารถเปิดร้านขายแก๊สและซื้อรถยนต์แบบนี้ได้ 

 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำนายชาฤทธิ์ พร้อม น.ส.ศิริพร และของกลางทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมายต่อไป