เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายสอิ้ง หาญประโคน หรือลุงสอิ้ง อายุ 63 ปี ชาว อ.เด่นชัย จ.แพร่ ที่เดิน-วิ่งถวายพระพร จากจังหวัดแพร่
เพื่อมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร ให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์ ถึงแรงบัลดาลใจในการทำกิจกรรมครั้งนี้ว่า จุดมุ่งหมายเพื่อไปถวายพระพรให้ในหลวงหายจากพระอาการประชวรโดยคาดไว้แล้วว่าต้องได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายเช่นนี้เพราะตนเดินผ่านหลายจังหวัด แรกๆอาจจะยังน้อยแต่ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานนั้น ลุงสอิ้ง เปิดเผยว่า ก่อนวิ่งมีระดับน้ำตาลในเลือด อยู่ที่ 116 มิลลิกรัม เปอร์เซ็นต์
แต่ระหว่างวิ่งจำเป็นต้องดื่มน้ำประเภทเกลือแร่เยอะ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ล่าสุดวัดได้ 309 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ แต่ทั้งนี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการวิ่งครั้งนี้ และไม่รู้สึกกังวล ตลอดการเดินก็ไม่เคยรู้สึกท้อเพราะมีคนรอให้กำลังใจมาก มีคนฝากดวงใจของเขากับลุงไปวางถวายในหลวง
พร้อมฝากถึงคนไทยทุกคนให้อภัยกันเพราะคนเราจะทำดีตลอดคงเป็นไปไม่ได้อยากให้ยึดหลักพอเพียงไม่โลภ เพราะอำนาจไม่ยั่งยืน
ขณะที่เคล็ดลับในการรักษาสุขภาพ ลุงสอิ้ง เปิดเผยว่า ตนออกกำลังกายโดยการวิ่งทุกวันทั้งเช้า และเย็น หากวันไหนไม่ได้วิ่งก็จะออกกำลังกายอยู่กับที่ที่บ้าน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ลุงสอิ้ง ออกเดินจาก จ.ปทุมธานีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดีฯขาเข้า โดยหยุดพักรับประทานอาหารกลางวัน ที่บริเวณถนนวิภาวดี ซอย8 โดยลุงสอิ้ง จ่ายเงินเลี้ยงอาหารมื้อเที่ยงแก่ชุดกู้ภัยที่ติดตาม จำนวน 1,200 บาท ก่อนจะมุ่งหน้าเดินสลับวิ่งเพื่อไปโรงพยาบาลศิริราช ทั้งนี้ระหว่างทางบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีฝนตกลงมา แต่ลุงสอิ้ง ก็ยังคงเดินต่อไปตามความตั้งใจ