แบงก์ธนชาต แจงลูกค้าผูกคอตายเพราะเข้าใจผิด เงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ 4 พันบาทคือดอกเบี้ยที่ธนาคารจ่ายให้ คนละบัญชีกับเงินฝากประจำ 1 ล้านบาท
สืบเนื่องจากกรณี นายบุญเลิศ ธรรมเมธา อายุ 65 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 2 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอกับขื่อกลางบ้านเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบจดหมายเขียนด้วยลายมือผู้ตายว่า “โดนโกง ฝากเงิน ธ.ธนชาต 1 ล้าน เหลือ 4,000 บาท”
วานนี้ (20 ต.ค.) ผู้บริหารธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ตายเข้าใจผิดถึงบัญชีเงินฝากประจำประเภท 8 เดือน ซึ่งธนาคารจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของผู้ตายเป็นปกติ
"ต้องเปิด 2 บัญชีคือ เงินต้นกับดอกเบี้ย คาดว่าผู้ตายไปดูสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แล้วเข้าใจผิดว่าเงิน 4 พันบาทเป็นเงินต้นซึ่งมีอยู่ 1 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเงิน 4,000 บาทในบัญชีออมทรัพย์คือ ดอกเบี้ยที่ธนาคารฯ ได้จ่ายให้ทุกเดือน" ผู้บริหารธนาคารธนชาต กล่าว
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้มีหนังสือจากธนาคารฯ ระบุว่า ธนาคารธนชาต ยืนยันเงินของนายบุญเลิศ อยู่ครบทุกบาททุกสตางค์ทั้งต้น และดอก ธนาคารธนชาต เสียใจที่ “ลุงบุญเลิศ” เข้าใจผิดจนคิดสั้น ยืนยันเงินล้านกว่าบาทของ นายบุญเลิศ ยังอยู่ครบ เผยฝากเป็น NCD ระยะ 8 เดือน เหลือเพียงอีก 2 เดือนก็จะครบกำหนดแล้ว
จากกรณีที่มีข่าวระบุว่า นายบุญเลิศ ธรรมเมธา ชาว จ.ชลบุรี ลูกค้าธนาคารธนชาต ได้ผูกคอตายและเขียนจดหมายลาว่า “โดนโกง ฝากเงิน 1 ล้านเหลือ 4,000 บาท” นั้น นายสนอง คุ้มนุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ธนาคารขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของนายบุญเลิศ ที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ขึ้นต่อ นายบุญเลิศ ซึ่งเป็นลูกค้าที่ดีของธนาคารมายาวนานหลายปี และยืนยันว่า เงินของนายบุญเลิศ ยังอยู่ครบทุกบาททุกสตางค์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายบุญเลิศ ได้นำเงิน 1,100,000 บาท มาฝากบัญชีบัตรเงินฝาก หรือ NCD ( Negotiable Certificate of Deposit) ระยะ 8 เดือน ที่สาขาถนนเจตน์จำนงค์ จ.ชลบุรี โดยให้โอนเงินดอกเบี้ยรายเดือนเข้าบัญชีที่เปิดไว้ที่สาขาแปซิฟิก จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่มีอยู่เดิม ที่ผ่านมา ได้รับดอกเบี้ยไปแล้ว 6 งวด เหลือดอกเบี้ยอีก 2 งวด ก็จะได้รับเงินต้นคืนทั้งหมดในต้นเดือนธันวาคมนี้
"เราเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดขึ้นจนทำให้คุณบุญเลิศ ตัดสินใจเช่นนั้นไป เราขอแสดงความเสียใจต่อคุณบุญเลิศ และครอบครัวอย่างที่สุด เราขอยืนยันข้อเท็จจริงว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยยังอยู่ในชื่อของคุณบุญเลิศ ครบถ้วน ไม่ได้หายไปไหนเลย สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา" นายสนอง กล่าว