นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยอดจับกุมโทรศัพท์ iPhon 6 (ไอโฟน 6)
เพิ่มขึ้นจากเดิม 300 เครื่อง รวมเป็น 400 เครื่องแล้ว แต่ไม่สูงมากจากช่วงเดือนกันยายน เนื่องจากกรมศุลกากรใช้มาตรการที่เข้มงวดกับผู้ประกอบการและผู้นำเข้าที่มีวัตถุประสงค์ในการนำเข้า ไอโฟน 6 เพื่อประกอบการค้า
อย่าง ไรก็ตาม จากการตรวจสอบกฎหมายศุลกากรโดยละเอียดพบว่า
ประชาชนทั่วไปหรือผู้นำเข้าเพื่อประกอบการค้า สามารถนำโทรศัพท์จากต่างประเทศเข้ามาภายในประเทศได้ เพราะอัตราภาษีนำเข้าของกรมศุลกากรอยู่ที่ 0% แต่โทรศัพท์รุ่นนั้นๆ ต้องได้ รับการอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ก่อน
“กรมศุลกากรเข้มงวดกับเรื่องนี้ แม้จะไม่มีภาระภาษีในการนำเข้าก็ตาม แต่ผู้นำเข้าต้องสำแดงสินค้าดังกล่าวในช่องแดง เพราะเป็นสินค้านำเข้าที่ต้องได้รับการอนุญาต แต่เมื่อ กสทช.อนุญาตให้นำไอโฟน6 เข้ามาจำหน่ายภายในประเทศไทยแล้ว ก็เท่ากับโทรศัพท์รุ่นนี้ได้ผ่านการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่ที่ต้องสำแดงในช่องแดง เพราะสินค้าเหล่านี้ ยังมีภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% ที่ผู้นำเข้าต้องจ่ายให้แก่กรมสรรพากร”
สำหรับผู้นำเข้าที่มีความประสงค์นำเข้าไอโฟน 6 จากต่างประเทศ 1 เครื่องเพื่อนำมาใช้งาน ก็ควรสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ด่านท่าอากาศยาน เช่น ด่านดอนเมืองและสุวรรณภูมิ แล้วเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ก็สามารถนำไปใช้ได้เหมือนกับโทรศัพท์ทั่วไป
แต่หากผู้นำเข้าไม่เสียแวต และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก็จะถูกยึดของกลาง
กรณีดังกล่าวหากผู้นำเข้ายอมเจรจาและเสียภาษีให้ครบถ้วนก็สามารถรับไอโฟน 6 กลับคืนไปได้ ที่ผ่านมา จำนวนไอโฟนที่กรมศุลกากรยึดได้ประมาณ 400 เครื่องนั้นได้มีการคืนเจ้าของที่ได้มาขอซื้อคืนและเสียภาษีไปแล้ว 300 เครื่องเหลืออีก 100 เครื่องถูกยึดเป็นของกลาง