นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
เปิดเผยว่า หลังแจกคูปองทีวีดิจิตอลมูลค่าฉบับละ 690 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอล ล่าสุดบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้สรุปยอดที่ส่งระหว่างวันที่ 11-12 ตุลาคมว่า มีคูปองถึงมือประชาชนแล้วกว่า 500,000 ครัวเรือน ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี อยุธยาและสุพรรณบุรี คาดวันนี้ (14 ต.ค.) คูปองล็อตแรกจะแจกครบ 21 จังหวัด จำนวนกว่า 4,000,000 ครัวเรือน
ขณะนี้สำนักงาน กสทช.ได้ติดตามการแจกคูปอง ที่ปัจจุบันได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ โทร.1200 กว่า 1,000 รายว่า
มีกลุ่มบุคคลต่างๆ รวบรวมบัตรประชาชนทั้งหมู่บ้าน โดยอ้างว่าจะนำไปดำเนินการแลกเซ็ตท็อปบ็อกซ์ให้ประชาชน ซึ่งการเก็บบัตรประชาชนล่วงหน้ามีการให้เงินรางวัลกับผู้นำหมู่บ้าน 35-40 บาท ต่อคูปอง จึงมีหนังสือถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งหนังสือเวียนขอให้ตักเตือนผู้นำชุมชนต่อการกระทำดังกล่าว เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมายและขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที ทั้งนี้ หากไม่หยุด สำนักงาน กสทช.จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
พร้อมกันนี้ขอเตือนไปยังบริษัทที่เข้าร่วมโครงการรับคูปองทั้ง 42 บริษัท
หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย จะพิจารณาตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการและชะลอการเบิกจ่ายเงินต่างๆ ทันที ซึ่งสำนักงาน กสทช.ได้ตั้งคณะกรรมการติดตามในเรื่องนี้ดังกล่าวและปัญหาการแจกคูปอง
ขณะที่ในโลกโซเชียลมีการออกมาประณามคุณภาพของกล่องทีวีดิจิตอลที่ผ่านการรับรองจาก กสทช.ว่า ไม่ค่อยมีคุณภาพ
โดยเฉพาะกล่องราคา 690 บาท เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องต้นทุน อาจทำให้ในระยะยาวอาจเกิดปัญหาเรื่องอะไหล่และการซ่อมบำรุงได้ โดยเฉพาะตัวรีโมท ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่มีการสำรองรีโมทไว้เป็นอะไหล่ คือ 1 เครื่องต่อ 1 ตัว และบนกล่องรุ่นนี้มักจะไม่มีปุ่มใดๆ ไว้สำรองกรณีที่รีโมทเสีย ถ้ารีโมทเสียก็เท่ากับกล่องทีวีดิจิตอลนั้นใช้ไม่ได้ไปด้วย
แม้ว่าตัวกล่องจะมีการรับประกัน 2 ปี แต่ในความเป็นจริงนั้นต้องวัดดวงกันว่า บริษัทเจ้าของกล่องจะรับผิดชอบได้ตามสัญญาหรือไม่ หรืออาจต้องใช้เวลานานในการซ่อมแซม และกล่องสำรองจะมีเพียงพอหรือไม่หากกล่องรุ่นนั้นมีปัญหา
แฉ! ผู้นำชุมชนรับหัวคิวคูปองทีวีดิจิตอล
เลขาธิการ กสทช.ระบุ มีกลุ่มบุคคลว่าจ้างผู้นำชุมชน เพื่อรวบรวมบัตรประชาชนของลูกบ้านไปดำเนินการแลกเซตท็อปบ็อกซ์เพื่อรับค่าหัวคิว และบางพื้นที่ได้รับคูปองในสภาพชำรุด จึงส่งเรื่องให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบ พร้อมขู่ตัดบริษัทร่วมโครงการหากพบว่าร่วมกระทำผิด
ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!