สูบบุหรี่ในตลาดระวังโดนปรับ2พัน

สูบบุหรี่ในตลาดระวังโดนปรับ2พัน

กทม. จับมือ สสส. รณรงค์ตลาดปลอดบุหรี่ นำร่องตลาดในกรุงฯ กว่า 300 แห่ง ฝ่าฝืนสูบเจอปรับ 2,000 บาท

เมื่อเวลา 13.00 น. นางผุสดีตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ ดร.นพ.บัณฑิตศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลักสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดกิจกรรมรณรงค์ “ตลาดในกทม.ปลอดบุหรี่ เรื่องดีๆ ที่ต้องช่วยกัน” ณ ตลาด อตก. เขตจตุจักร ภายในงานมีกิจกรรมมอบสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับผู้แทนตลาดและผู้อำนวยการเขต

พร้อมทั้งแจกสื่อและเดินรณรงค์ติดป้าย “ขอบคุณที่ไม่สูบบุหรี่ในพื้นที่ห้ามสูบตามกฎหมาย”

จากนั้น ร่วมกันทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ร่วมด้วยช่วยดับ”โดยใช้ปืนฉีดน้ำดับบุหรี่ติดไฟขนาดยักษ์จนดับมอดซึ่งคาดว่าการจัดกิจกรรมรณรงค์ในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ในการคุ้มครองสุขภาพผู้ที่ไม่สูบบุหรี่รวมถึงประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในตลาดทุกแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯโดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการต่างๆ ร่วมกันปฏิบัติตามกฎหมายไม่ปล่อยให้มีการสูบบุหรี่ในสถานที่ห้ามและช่วยกระตุ้นเตือนให้เกิดการเคารพสิทธิของผู้ไม่สูบบุหรี่และตระหนักถึงพิษภัยตามเจตนารมณ์ร่วมกัน ซึ่งหลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจและสำนักอนามัย กทม. ออกตรวจพื้นที่ร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

นางผุสดีกล่าวว่า ในกทม.มีจำนวนตลาดมากกว่า 338 แห่ง โดยได้แบ่งตลาดที่มีโครงสร้างอาคาร 139 แห่ง

และไม่มีโครงสร้างอาคาร 199 แห่ง พื้นที่ของตลาดที่ผ่านมาเป็นเขตที่มีการฝ่าฝืนการสูบบุหรี่กันมากมาย ซึ่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 กำหนดให้ผู้สูบบุหรี่ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2,000 บาท ทั้งนี้ในส่วนของกทม.ได้สั่งการให้สำนักเขตต่างๆเร่งดำเนินการติดประกาศในพื้นที่ตลาดทุกพื้นที่แล้วและยังจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจและสำนักงานอนามัยกทม.ออกตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทางด้านดร.นพ.บัณฑิต ได้กล่าวอีกว่าในการจัดงานครั้งนี้เป็นการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย 100%

และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันเสริมสร้างสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ซึ่งมีจำนวนร้อยละ 80 ของคนไทย เพื่อเป็นการจำกัดพื้นที่สูบบุหรี่ให้มีน้อยลงซึ่งจะเกิดความไม่สะดวกในการสูบบุหรี่ อย่างไรก็ตาม สสส.ได้ทำการสำรวจการรับรู้ของประชาชนถึงป้ายพื้นที่ห้ามสูบพบว่าเบื้องต้น ยังมีประชาชนร้อยละ 29.32 เท่านั้นที่เคยพบเห็นป้ายสติกเกอร์ และมีประชาชนเกินครึ่งที่ไม่ทราบถึงข้อกฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตามคาดว่ากิจกรรมนี้จะช่วยสร้างพฤติกรรมการรับรู้ของประชาชนให้มากขึ้น.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์