‘น้องหนึ่ง’ วัย 10 ขวบ สุดดีใจเจอแม่แล้ว หลังต้องอยู่บ้านตัวคนเดียวนานนับปี!!
‘น้องหนึ่ง’ วัย 10 ขวบ สุดดีใจเจอแม่แล้ว หลังอยู่คนเดียวเป็นปี
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ‘น้องหนึ่ง’ วัย 10 ขวบ สุดดีใจเจอแม่แล้ว หลังอยู่คนเดียวเป็นปี
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา นายไพศาล จันทวารา รอง นายก อบจ.อำนาจเจริญ น.ส.ณิชชา พันธุ์วรรณ เลขาฯ นายก อบจ.อำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและสตรี ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลอำนาจเจริญ ได้นำ ด.ช.วัชรพล วรรณกาล หรือ น้องหนึ่ง ที่แม่ต้องออกไปทำงานที่กรุงเทพฯ อาศัยอยู่ตัวคนเดียวนานนับปี พร้อมด้วยพี่สาว ด.ญ.สิรินทิพย์ วรรณกาล หรือ น้องกิ่ง อายุ 15 ปี มาฝากเข้าที่โรงรียนราชประชานุเคราะห์ 32 อำนาจเจริญ โดยมีนางสุภัทรทาดา วรรณกาล อายุ 38 ปี แม่ของน้องหนึ่ง ร่วมเดินทางมาส่งลูกชายและลูกสาวด้วย
จากนั้น นางสาวณิชชา พันธุ์วรรณ เลขาฯ นายก อบจ.ได้เป็นตัวแทนหน่วยงานราชการ มอบเงินทุนการศึกษา จำนวนหนึ่ง ที่ได้รับบริจาคจากผู้ใหญ่ใจดีไม่ประสงค์ออกนาม พร้อมอุปกรณ์การเรียน ให้กับน้องหนึ่ง และน้องกิ่ง สำหรับเงินจำนวนนี้ ทางโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ จะนำไปเปิดบัญชี เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กทั้งสองต่อไป
นายสมทบ ถีระพันธ์ ผอ.ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 32 อำนาจเจริญ สำหรับน้องหนึ่ง จะเข้าศึกษาต่อในชั้น ป.4 ส่วนน้องกิ่งพี่สาว จะให้เข้าศึกษาต่อในชั้น ม.4 ส่วนของห้องพัก จะพักอาศัยอยู่ในบ้านพักนักเรียน มีอาหารตามหลักโภชนาการ วันละ 3 มื้อ และขนมหวานผลไม้ตามฤดูกาล มีชุดนักเรียน ชุดกีฬา รองเท้า เครื่องนอนและอุปกรณ์การเรียน ครบถ้วน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
นายไพศาล จันทวารา กล่าวว่า วันนี้ได้มาส่งตัวเด็กทั้ง 2 คน เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของแม่นั้น จะกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ ต่อ เพื่อผ่อนชำระหนี้ที่ยังค้างอยู่ และดูแลลูกสาวคนโต ที่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ กรุงเทพฯ
ด้าน น้องหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากที่ได้เจอหน้าแม่ เพราะห่างจากแม่มานานมาก คืนนี้จะได้นอนกับแม่ เหมือนกับครอบครัวอื่นๆ
ด้าน นางสุภัทรทาดา วรรณกาล แม่ของน้องหนึ่ง กล่าวว่า ตนรู้สึกปลาบปลื้มตื้นตันใจมาก ที่หน่วยงานต่างๆ ได้ยืนมือเข้าช่วยเหลือ นอกจากจะช่วยน้องหนึ่งแล้ว ยังช่วยเหลือลูกสาวอีกคนให้ได้เข้ารับการศึกษา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องออกจากโรงเรียน ไปช่วยแม่ทำงานเป็นแม่บ้านที่ศูนย์การเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา รายได้เพียงแค่วันละ 365 บาท ต้องเช่าห้องเดือนละ 1,500 บาท ที่อาศัยกับลูกสาวคนกลาง และคนโต เพื่อนำมาเงินมาใช้หนี้ที่มีอยู่ในตอนนี้ ทำให้ไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากการประสบปัญหาทางด้านการเงิน ทั้งที่อยากเรียนต่อให้สูง และขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนในครั้งนี้
ด้านนางสุภัทรทาดา เปิดเผยอีกว่า วอนผู้มีจิตศรัทธา ที่เห็นใจในความยากลำบากของตนที่ต้องดูแลลูกถึง 3 คน ด้วยตัวเพียงคนเดียว ให้การช่วยเหลือ ลูกทั้งสองคนด้วย เพราะก่อนหน้านี้ น้องหนึ่งเคยประสบอุบัติเหตุ ต้องนอนพักรักษาตัวถึง 2 เดือน อีกทั้ง ลูกสาวคนกลาง ก็โดนพ่อเลี้ยงกดขี่รังแก จึงเป็นสาเหตุให้ตนและสามีเกิดการแตกหักขึ้น พร้อมทั้งหนี้สินและฐานะที่ยากจน จึงได้ตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพฯ