ชงดีเอสไอ-ปปง. สอบทุจริตสนามฟุตซอล

“ป.ป.ท.” ชง “รมว.ยธ.” ขอกำลังดีเอสไอ-ปปง. สอบทุจริตงบ สพฐ. สร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนทั้งระบบกว่า 600 ล้านบาท ส่อผิดฮั้วประมูล

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายประยงค์  ปรียาจิตต์  เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)

กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2555 จากงบแปรญัตติ กระจายให้กับโรงเรียนใน 17 จังหวัด รวม 358 โรงเรียน งบประมาณกว่า600 ล้านบาทว่า ล่าสุดตนจะทำหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เพื่อขออนุมัติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาร่วมตรวจสอบการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนทั้งระบบ เนื่องจาก ป.ป.ท.ไม่มีกำลังเจ้าหน้าทีเพียงพอ
 
อีกทั้งกรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) จากกรณีที่มีบริษัทเอกชน 2 บริษัทที่มีเจ้าของเป็นบุคคลเดียวกันชนะการประมูลและทำสัญญาก่อสร้างกับทุกโรงเรียน โดยดีเอสไอมีอำนาจตรวจสอบกรณีฮั้วประมูล ส่วน ปปง.จะเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการใช้จ่ายเงินโดยเฉพาะ สพฐ.ว่าจัดสรรไปอย่างไรบ้าง      
         

เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ป.ป.ท.ตรวจสอบการใช้งบโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนจำนวน 39 แห่ง จากทั้งหมด 50 แห่งในพื้นที่จ.นครราชสีมา

พบว่าทุกแห่งก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานทั้งสิ้น  ไม่สามารถใช้งานได้จริง  ขณะที่การสุ่มตรวจสอบในพื้นที่จ.อุตรดิตถ์ และจ.บุรีรัมย์  มีการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานมากกว่า  ทั้งนี้ ป.ป.ท.ประสานกับสพฐ.เพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวมาตรวจสอบ  หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องจะดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาด กรณีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสูงกว่าระดับ 8 เป็นอำนาจไต่สวนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐต่ำกว่าระดับ 8 ป.ป.ท.จะดำเนินการเอาผิดทั้งอาญาและส่งหน่วยงานต้นสังกัดเอาผิดทางวินัยด้วย ส่วนความผิดของเอกชนฐานฮั้วประมูลจะใช้อำนาจสอบสวนเอาผิดของดีเอสไอ            
   

ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับโครงการดังกล่าวมีปัญหาอย่างมากกับการใช้วัสดุปูพื้นสนามฟุตซอลซึ่งคิดเป็นราคาสูงถึง 80 % ของงบที่ได้รับ 

 โดยมีลักษณะไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่  เช่นไม่มีหลังคาคลุมแดดและฝน  และมีราคาที่แพงเกินจริง  โดยการก่อสร้างสนามฟุตซอลแยกเป็น  2 ขนาดคือ 726 ตารางเมตร วงเงิน 2.5 ล้านบาท 1,512 ตารางเมตร วงเงิน 5 ล้านบาท ทุกแห่งที่ป.ป.ท.สุ่มตรวจสอบ 39 โรงเรียนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่าทุกแห่งไม่สามารถใช้งานได้จริงทั้งที่ก่อสร้างมาแล้ว 2 ปี.