ผู้ประกอบธุรกิจ5แสนรายโดนแน่ คลังรีดภาษีค้าผ่านเนต

ผู้ประกอบธุรกิจ5แสนรายโดนแน่ คลังรีดภาษีค้าผ่านเนต

สรรพากร เตรียมเรียกผู้ประกอบการ “อี-คอมเมิร์ซ”มารับฟังข้อมูลในการยื่นเสียภาษีปลายเดือนนี้ พร้อมดึงผู้ขายของตามตลาดซื้อขายขนาดใหญ่ อาทิ สำเพ็ง โบ๊เบ๊ การค้าขายตามชายแดน  5 ล้านรายมาเสียภาษีให้ถูกต้อง ส่วนรมว.คลัง  สั่งธนารักษ์เร่งขอคืนที่ราชพัสดุไร้ประโยชน์ มาจัดสรรคนยากจนทำกิน

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือน ต.ค.2557 นี้
 
กรมสรรพากร จะเรียกผู้ประกอบการที่ทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทุกช่องทาง (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) หรือ อี-คอมเมิร์ช เข้าหารือ และรับฟังข้อมูลในการยื่นเสียภาษี โดยกรมฯจะให้ความรู้เพื่อให้เข้าใจว่ามีภาษีในส่วนใดบ้างที่เกี่ยวข้องและเข้าข่ายที่ต้องเสียภาษี ในเบื้องต้นพบว่ามีธุรกิจที่เข้าข่าย 500,000 ราย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ อี-คอมเมิร์ช จะเข้าข่ายการเสียภาษีของกรมสรรพากร แบ่งเป็น ภาษีบุคคลธรรมดา

และหากจัดตั้งเป็นบริษัทก็ต้องเสียภาษีนิติบุคคล เมื่อมีรายได้ตามที่กรมฯกำหนดไว้ โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT ) หากผู้ประกอบการมีการซื้อขายและมีรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องเข้ามาจดทะเบียนเสียภาษีVAT  อีกด้วย

สำหรับธุรกิจ อี-คอมเมิร์ช ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา
 
เช่น จากเดิมที่มีการเปิดร้านขายของ ก็จะนำสินค้าของร้านขึ้นหน้าเว็บไซต์ โดยใช้อินเตอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาดูสินค้าและสั่งซื้อสินค้าจากสถานที่ต่างๆ ได้ทันที โดยมองว่าธุรกิจดังกล่าวอาจมีบางส่วนที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีและบางส่วนที่เข้าข่ายเสียภาษีก็ต้องดึงมาให้เข้าระบบและเสียภาษีให้ถูกต้อง

“ยืนยันการเรียกผู้ประกอบการเข้าหารือในครั้งนี้ เพราะกรมสรรพากรมีเจตนาดีที่ต้องการให้ความรู้และความเข้าใจในการเสียภาษี เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการยื่นเสียภาษีที่ผิดพลาด ซึ่งแนวทางการดำเนินงานของกรมฯ มองว่าทุกอย่างจะต้องทำความเข้าใจให้กับผู้ที่เข้าข่ายเสียภาษีอย่างละเอียดและถูกต้อง”

ขณะที่ การจัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเงินสด
 
เช่น การค้าขายของตามตลาดซื้อขายขนาดใหญ่ เช่น ตลาดสำเพ็ง ตลาดโบ๊เบ๊ การค้าขายตามชายแดน ที่มีอยู่ประมาณ 5 ล้านรายต้องดึงมาเสียภาษีให้ถูกต้อง โดยกรมฯ จะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทำการประชาสัมพันธ์ว่าหากมีเงินได้ที่เข้าข่ายการเสียภาษี เช่น ภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล ก็ต้องทำหน้าที่เสียภาษีให้ถูกต้อง

ด้าน นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า  นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง

ได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์เร่งขอคืนที่ราชพัสดุจากหน่วยงานราชการต่างๆที่ใช้ประโยชน์อย่างไม่เต็มที่ เพื่อนำไปจัดสรรให้ประชาชนที่รายได้น้อยและยากจนได้เช่าที่ทำมาหากินเพิ่มรายได้ และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ไม่ที่ดินทำกินด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้ขอคืนพื้นที่จากหน่วยงานราชการได้แล้วประมาณ 4,000 ไร่ เป็นพื้นที่จังหวัด สุราษฎาร์ธานี ปราจีนบุรี และพิษณุโลก
 
ซึ่งในส่วนของที่ราชพัสดุขนาดเล็กต่ำกว่า 50 ไร่ จะสามารถดำเนินการจัดสรรให้กับประชาชนทำกินทันที ส่วนที่ราชพัสดุขนาดใหญ่จะต้องมาพิจารณาดูความเหมาะสมในการแจกและวางแผนว่าที่แปลงดังกล่าวควรให้ประชาชนใช้ทำกินอะไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่ยั่งยืน คาดว่าจะดำเนินการได้ภายใน 4-5 เดือน

สำหรับการแจกที่ดินให้กับประชาชน จะมีการประสานกับกระทรวงมหาดไทย ที่มีการลงทะเบียนคนจนอยู่แล้ว เป็นผู้คัดเลือกคนให้มาเช่าที่ราชพัสดุทำกินในราคาถูกไร่ละ 5-10 บาทต่อไร่ต่อปี



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์