ย้อนรอยปี 54 อีกครั้ง"ผู้เชี่ยวชาญน้ำ"คาดอีก 4 ปีข้างหน้า เกิดเหตุมหาอุทกภัยถล่มกรุง เหตุฝนกระหน่ำตกหนักกว่าปกติ ขณะผังเมืองเป็นที่ลุ่ม คาดระบายน้ำไม่ทัน จี้รัฐประสานหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต
เปิดเผยกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ถึงกรณีฝนตกในระยะเวลาสั้น แต่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังว่า ความเข้มของฝนที่ตกมีมากขึ้น ในช่วง 10 ปีหลังนี้ฝนจะตกหนักมากขึ้นในพื้นที่โดยทั่วไป รวมถึงพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ซึ่งมีฝนตกลงมาเพียง 15 นาทีก็ยังไม่สามารถระบายน้ำลงท่อได้ทัน ซึ่งน่าจะเกิดจากฝนตกในปริมาณมากกว่าปกติ และผังเมืองที่เป็นพื้นที่ลุ่ม ซึ่งเป็นที่อยู่ของน้ำลดลงไป และมีพื้นคอนกรีตเพิ่มขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องปรับปรุงระบบระบายน้ำ เพราะในอีก 50 ปีข้างหน้ามีโอกาสที่ฝนจะตกมากขึ้น ส่วนจะเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกหรือนั้นคาดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือปี 61 จะมีน้ำท่วมใหญ่อีกแน่
รศ.ดร.เสรี กล่าวด้วยว่า การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ รวมถึงรัฐบาลชุดนี้ที่จะมีการบริหารงานเพียงปีเดียว
ส่งผลให้โครงการแก้ปัญหาโครงการใหญ่ ๆ ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ปัญหาระยะสั้นไปก่อน คือการเน้นหาพื้นที่ลุ่มให้น้ำอยู่ และหาทางให้น้ำไป ส่วนปัญหาด้านงบประมาณไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะน่าจะลงทุนเป็นปีต่อปีได้ แต่ปัญหาหลักของการจัดการปัญหาน้ำท่วม คือการประสานงานของหน่วยงานไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องมีการแก้ปัญหาร่วมกัน ต้องให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการตกลงจัดการแก้ปัญหาด้วย โดยขณะนี้ประชาชนไม่เห็นด้วยในหลายโครงการ ซึ่งอาจเกิดปัญหาเหมือนกรณีน้ำท่วมใหญ่ในปี 54 ที่ประชาชนพยายามผลักดันน้ำออกไปจากพื้นที่ของตนเองจนเกิดเป็นความขัดแย้งได้.