ช่างกลปทุมวันขอย้ายที่ตั้งใหม่
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวว่า จากการร่วมประชุมหารือกับผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถึงปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักศึกษา ซึ่งทางผู้บริหารสถาบันมีมาตรการดูแลค่อนข้างดี แต่บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเกิดนอกสถาบัน
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เป็นเด็กอาชีวะสร้างชาติ ทางศธ.จึงมีแนวทางการดำเนินงานปรับหลักสูตรอาชีวศึกษา โดยจะนำเด็กจากทุกสถาบันใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อให้เด็กเกิดความรักใคร่กัน เมื่อเด็กแยกย้ายกลับสู่สถาบันจะเกิดความผูกพัน และลดปัญหาทะเลาะวิวาท โดยจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานทหาร ช่วยอบรมดูแลปลูกฝังค่านิยมคุณธรรม จริยธรรม ความสามัคคี รวมทั้งระเบียบวินัย ภายในระยะเวลา 1 เดือน ก่อนแยกย้ายกลับสู่สถาบันของตัวเอง
นอกจากนี้จะใช้มาตรการปรับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยอาจให้เด็กเรียนเนื้อหารายวิชา 1 เดือน ก่อนจะทำกิจกรรมออกค่ายอาสา หรือฝึกทักษะในโรงงานของผู้ประกอบการ เพื่อให้เด็กได้รับความรู้และประสบการณ์ รวมถึงเห็นคุณค่าในตัวเองและเกิดความภูมิใจเป็นที่ยอมรับของสังคม พร้อมทั้งมีมาตรการการพูดคุยกับรุ่นพี่ที่กำลังศึกษาและรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว เพื่อปรับความเข้าใจ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้าพูดคุยกับผู้ปกครอง หรือตัวของเด็กแทน รมว.ศธ. กล่าว
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทางผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มีแนวคิดย้ายสถานที่ตั้ง โดยวางแผนเพื่อเตรียมการย้ายไปยังจ.พิจิตร ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่ตั้งที่ห่างไกลจากสิ่งแวดล้อมในเมือง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของตัวเด็ก และยังห่างไกลกับชุมชนที่อาจเป็นสิ่งยั่วยุจนนำไปสู่ปัญหาตีกัน ซึ่งกระทรวงมีแนวทางเสนอเพิ่มเติมให้สถาบันจัดการสอนแบบโรงเรียนประจำ เพื่อให้ครูอาจารย์สามารถดูแลความประพฤติของเด็กตลอด 24 ช.ม. รวมถึงจะเจรจากับผู้ประกอบการให้เด็กได้มีโอกาสเข้าทดลองงาน โดยจะประสานภาคเอกชนสนับสนุนเรื่องงบประมาณ และหากประสบผลสำเร็จจะผลักดันเป็นสถาบันตัวอย่าง