ชาวบ้านพิษณุโลกแห่ขุดเจดีย์เก่าสมัยสุโขทัย-พบพระเนื้อดินและวัตถุโบราณอื้อ

ชาวบ้านพิษณุโลกแห่ขุดเจดีย์เก่าสมัยสุโขทัย-พบพระเนื้อดินและวัตถุโบราณอื้อ

 เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีประชาชนจำนวนมากพากันไปขุดค้นหาวัตถุโบราณ ที่ฝังอยู่ในวิหารและเจดีย์เก่าในยุคสุโขทัย ที่บริเวณกลางป่า หมู่ 4 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบ

 โดยจุดที่ชาวบ้านขุดหาของเก่าอยู่ด้านหลัง อบต.ท่าตาล อ.บางระกำ ผ่านถนนลูกรังเข้าไปกลางทุ่งนาประมาณ 1-2 กิโลเมตร ซึ่งจุดที่พบเป็นวิหารและเจดีย์เก่าถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมจนมองไม่เห็น จึงต้องเดินเข้าไปภายในป่า พบซากปรักหักพัง มีเศษอิฐเศษหินเก่าที่พังทลายลงมากองเป็นเนินสูง มีพระสงฆ์และชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังขุดค้นหาวัตถุโบราณอยู่ โดยบริเวณโบราณสถานดังกล่าว มีการจุดธูปเทียน เพื่อขอขมาเจ้าที่เจ้าทางก่อนการลงมือขุด นอกจากนั้นยังมีร่องรอยการขุดค้นเป็นหลุมกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป แต่มีหลุมขนาดใหญ่ที่สุดลึกประมาณ 3 เมตร มีชาวบ้านลงไปขุดเจอเศษกระเบื้องเก่าและไห พร้อมกับพบมีพระเนื้อดินที่บรรจุอยู่ในไหจำนวนหนึ่ง ทางชาวบ้านพร้อมพระสงฆ์นำขึ้นมาและนำไปเก็บไว้ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนสักโคกทอง

 พระครูปลัดสรยุทธ จิตตะปัญโญ หรือหลวงพ่อบุญรุ่ง เปิดเผยว่า บริเวณดังกล่าวเป็นวัดเก่าแก่ มีวิหารและเจดีย์เก่าแก่อายุหลายร้อยปี สันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ในยุคสุโขทัย ถูกสร้างขึ้นอยู่ติดกับแม่น้ำวังทอง โดยมีกำแพงอิฐรอบล้อมเป็นแนวกั้นน้ำเอาไว้ สภาพพังทลายหมดแล้ว แต่ยังคงมีเศษอิฐ ร่องรอยเนินวิหารและฐานเจดีย์ให้เห็นในปัจจุบัน 

 หลวงพ่อบุญรุ่ง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านได้นิมนต์ให้อาตมามาสร้างวัดที่บริเวณแห่งนี้ เพื่อมาบูรณะและปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม แต่ยังไม่พร้อมในหลายด้าน จึงได้ไปสร้างสำนักปฏิบัติธรรม หรือศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนสักโคกทอง ซึ่งห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนบริเวณวิหารและเจดีย์เก่าแห่งนี้ อาตมาได้เข้ามาปฏิบัติธรรมบ่อย ก่อนจะลงมือขุดและสัมผัสกับสิ่งบางอย่าง จึงมั่นใจว่ามีวัตถุโบราณฝังอยู่ใต้ดิน จึงให้ชาวบ้านขุดค้น กระทั่งพบกระเบื้องเก่าแก่ และพระเนื้อดินจำนวนหนึ่ง หลังชาวบ้านทราบข่าวจึงพากันมาขุด และนำพระไปเป็นจำนวนมาก

 ด้าน นายบุญมี แก้วบางทราย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ท่าตาล กล่าวว่า ตนเป็นคนพาหลวงพ่อมาดูบริเวณวิหารเจดีย์เก่าแห่งนี้ เพื่อจะสร้างวัดและบูรณะขึ้นใหม่ เพราะเป็นวัดเก่าแก่ยุคสุโขทัย เดิมชื่อวัดกระดี่ทอง มีกำแพงอิฐรอบล้อมตลอดฝั่งแม่น้ำวังทอง สภาพอิฐยังมีความสมบูรณ์และเป็นอิฐขนาดใหญ่และหนา หลังเกิดการพังทลายตามกาลเวลาและถูกทิ้งรกร้าง ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุม ทำให้เมื่อมองจากด้านนอก จะไม่เห็นว่ามีเนินวิหารและเจดีย์ดังกล่าว ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีชาวบ้านในละแวกและต่างถิ่นมาลักขุดหาสมบัติและของโบราณกันบ่อย จนทำให้พื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยบ่อจากการขุด ส่วนทรัพย์สินหรือของเก่าแก่ที่ได้ไป ต่างปิดเป็นความลับกันหมด เพราะกลัวจะถูกทวงเอาคืน

 ขณะที่ นายเชน บัวคำ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/3 หมู่ 5 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนไปขุดหาพระเหมือนกับชาวบ้านทั่วไปได้พระเนื้อดินมา 2 องค์ โดยเพื่อนบ้านที่ไปด้วยก็ขุดได้เช่นกัน ต่างเก็บไว้บูชา เพราะเป็นพระที่หายาก เนื่องจากจุดที่ขุดพบเป็นวิหารเก่า แต่ก่อนไม่มีใครกล้าเข้าไป เพราะกลัวจะมีอันเป็นไป แต่หลังทราบว่ามีชาวบ้านไปขุดกันบ่อย จึงได้ไปลองขุดบ้าง จนได้พระมาบูชาดังกล่าว

 นางศรีนวล ธูปขำ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/3 หมู่ 5 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่า มีการขุดพบพระที่บริเวณวิหารและเจดีย์เก่า จึงมาขุดกับเพื่อนบ้านหลายคน และเพิ่งขุดพบพระเนื้อดิน 1 องค์ ทำให้ดีใจมาก จะนำไปเก็บไว้บูชา ส่วนคนอื่นก็ขุดได้หลายองค์เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพระเนื้อดินอย่างเดียว นอกจากนั้นจะเป็นกระดูกและเศษกระเบื้องที่แตกหัก

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตพระที่ขุดพบ เป็นพระเนื้อดินเผา ลักษณะมีเส้นรอบองค์พระจำนวน 2 เส้น ลักษณะคล้ายพระพุทธชินราชเส้นคู่ ซึ่งยังไม่ผู้ใดสามารถยืนยันได้แน่ชัดว่า เป็นพระยุคไหน ซึ่งคงต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์อีกครั้ง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด