ผญบ.เกาะเต่าขอความเป็นธรรม

นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งถูกพาดพิงว่าเป็นผู้มีอิทธิพลบนพื้นที่ และเครือญาติอาจเกี่ยวพันกับคดีสังหารโหดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ แถลงขอความเป็นธรรมหลังตกเป็นจำเลยสังคม ลั่นยินดีมอบ 1 ล้านบาทหากญาติพี่น้องคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วน "เอก อังสนานนท์" ลงพื้นที่ตามจี้คดี

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ด้านงานปราบปราม ลงพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
 
เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอังกฤษ โดยมีการเรียกเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือข้อมูล หลังประชุมร่วมกันนานกว่า 2 ชม. พล.ต.อ.เอก ได้ออกมากล่าวว่า ขณะนี้การสืบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังเหลือต้องหาพยานแวดล้อมมาสอบสวนอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาเชื่อมโยงเหตุการณ์และตีวงการสืบสวน
 
ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบช.ภ.8 ร่วมกับ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รักษาราชการแทน ผบก.สส.บช.น.

เป็นผู้ดำเนินการติดตามพยานแวดล้อมมาให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้สอบปากคำ โดยเน้นติดตามบุคคลที่อยู่บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งวิเคราะห์กล้องวงจรปิดทุกจุดอย่างละเอียด ในส่วนของพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ของคนร้ายเรามีครบถ้วนแล้ว เพียงแต่ต้องหาพยานแวดล้อมมาสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดเพื่อให้สอดคล้องกับผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปในทิศทางเดียวกันแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดของคดีได้ แต่ยืนยันว่ามีความคืบหน้าไปมากแล้ว

ด้าน พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น  ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า สำหรับการเชิญตัว นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1
 
ต.เกาะเต่า เจ้าของเอซีบาร์ และ นายมนตรีวัฒ ตู้วิเชียร น้องชาย เจ้าของอินทัชรีสอร์ท และผู้ดูแลเอซีบาร์มาสอบปากคำ เป็นเพียงการขอเพื่อมาให้ข้อมูล ไม่มีการควบคุมตัวหรือแจ้งข้อหาใคร  และขณะนี้ยังไม่ได้มีการออกหมายจับผู้ใด แต่มีการตรวจสอบบุคคลต่างๆที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ รวมถึงผู้ต้องสงสัยไปจำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งผลการเปรียบเทียบกับวัตถุพยานที่ตำรวจมีอยู่ยังไม่ตรงกัน และขณะนี้ได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ปัญญา ได้มีคำสั่งให้ตำรวจ ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และ ชุมพร

กระจายกำลังเจ้าหน้าเข้าตรวจสอบตามร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดตามโทรศัพท์ไอโฟน ของ น.ส.ฮานน่าห์ วิคตอเรีย ซึ่งถูกคนร้ายนำไปด้วยหลังก่อเหตุ วันเดียวกัน นายวรพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เกาะเต่า ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่เกิดเหตุ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ครอบครัวของตนบอบซ้ำมาก โดยเฉพาะลูกชายที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ เนื่องจากตกเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว ทั้งที่ตนและน้องชายเข้าพบตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และตนพร้อมจะมอบเงินรางวัลให้ 1 ล้านบาทกับตำรวจภาค 8 หากพบว่ามีญาติพี่น้องตนคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ทนายความตรวจสอบข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละสื่อ เพื่อฟ้องร้องในกรณีที่พาดพิงเครือญาติ.