โวยจับเจ้าตูบหน้าร้านสะดวกซื้อ

โวยจับเจ้าตูบหน้าร้านสะดวกซื้อ

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้รักสุนัข และสัตว์แห่เข้าไปชมเฟซบุ๊กของผู้ใช้รายหนึ่ง

ซึ่งนำภาพขณะ ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านถนนลาดปลาเค้า สั่งจับสุนัขจรจัดที่เพ่นพ่านอยู่บริเวณหน้าร้านจำนวนหลายตัว โดยผู้โพสต์ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ผู้จัดการร้านฯ รายดังกล่าวได้แจ้งประสานให้ทางสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เขตประเวศ มาจับ "เจ้ามอม" และ" เจ้าแมม" สุนัขที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าร้าน โดยอ้างว่า มันกัดคน ทั้งที่ความเป็นจริงสุนัขทั้ง 2 ตัว มีนิสัยเชื่อง และคุ้นเคยกับคนมาก แต่วันเกิดเหตุบังเอิญเด็กไปเหยียบถูกหางมันเข้า มันจึงแว้งจะกัดแต่ไม่โดน หลังเจ้าหน้าที่จับสุนัขทั้ง 2 แล้ว ก็เดินไปที่หน้าร้านบอกว่าจะเอาสุนัขแก่ที่ชื่อ "ขาวผ่อง" ไปด้วย แม่ค้าที่ขายของอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อทนไม่ไหว เพราะสงสารสุนัขจึงติดต่อขอความช่วยเหลือมายังกลุ่มคนรักสุนัข

เมื่อกลุ่มรักสุนัขทราบเรื่องจึงเดินทางไปติดต่อขอรับสุนัขคืน กลับต้องเสียเงินค่าไถ่สุนัขตัวละ 5,000 บาท
 
เมื่อถวงถามหาใบเสร็จเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีพร้อมชี้แจงว่า “คืนสุนัขให้ไม่ได้ ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อสั่งไว้ว่า หากใครจะเอาสุนัขคืนต้องคุยกับเขา และห้ามเอากลับที่ปล่อยเดิม หากเจออีกก็จะจับอีก กัดไม่กัดไม่สน แต่เป็นพื้นที่ของเขาจึงมีสิทธิ์” นอกจากนี้สุนัขบางตัวยังถูกผู้จัดการร้านสั่งจับไปปล่อยที่อื่น มาแล้วหลายตัว

หลังข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป หลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ และทวงถามนโยบายของร้านว่า มีการดำเนินการอย่างไรหลังจับสุนัขไปแล้ว
 
ทั้งนี้เคยมีผู้ไปขอรับสุนัขที่สำนักเขตประเวศ แต่ต้องเสียค่าไถ่สุนัขตัวละ 2,000 บาทหลายครั้งแล้ว และสุนัขที่อาศัยอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อใกล้เคียงกันก็ ต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน แม่ค้าแถวนั้นได้ตามไปไถ่ตัวมาแล้วหลายครั้ง จนบรรดาแม่ค้าต้องขอร้องผู้จัดการร้านสะดวกซื้อขอให้สุนัขนอนบริเวณหน้าร้านได้

โดยนายโกวิท ยงวานิชจิต รอง ผอ.สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร

ชี้แจงว่า เมื่อมีผู้ร้องเรียนเรื่องความเดือดร้อนของสุนัขจรจัดก็จะมีการลงพื้นที่สำรวจว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นการกลั่นแกล้ง หลังจากนั้นจะดำเนินการจับกุมไปไว้ที่ศูนย์ควบคุมสุนัข หากมีเจ้าของสามารถขอรับสุนัขคืนได้ทันที โดยจะมีการทำข้อตกลงว่าจะต้องไม่ปล่อยสุนัขมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นอีก หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อรับสัตวแพทย์จะตรวจสุขภาพ ทำหมัน ฉีดวัคซีน และส่งตัวไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงสุนัขที่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ขอยืนยันว่า กทม.ไม่มีนโยบายทำให้สุนัขตาย และไม่มีการเรียกรับเงินอย่างแน่นอน มองว่าน่าจะเป็นการสร้างเรื่องใส่ร้ายเจ้าหน้าที่

ด้านนายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า
 
"การที่สุนัขมานอนหน้าร้านเซเว่นฯ หากมีกรณีกัดหรือทำร้ายลูกค้าทางบริษัทต้องรักษาและดูแลลูกค้าทุกคน ทุกวันนี้ร้านทุกแห่งก็ไม่ได้มีมาตรการใดที่เป็นการทารุณกรรม คงปล่อยให้สุนัขทุกตัวอาศัยนอนที่หน้าร้านได้ เพียงแต่กันไม่ให้เข้าไปภายในร้าน เนื่องจากเราขายอาหารซึ่งต้องระวังเรื่องความสะอาด สุนัขกับร้านค้าเป็นของคู่กัน เพราะถึงตามจับตัวนี้ไปเดี๋ยวสุนัขตัวอื่นก็ต้องมานอนแทน ส่วนสุนัขตัวที่ถูกจับไปขอยืนยันว่า หากมันจะกลับมาพักอาศัยนั่งนอนบริเวณหน้าร้านก็ไม่ได้ห้ามหวงหรือรังเกียจ เพียงแต่อยากขอให้แม่ค้า และประชาชนรอบ ๆ ร้านช่วยกันดูแลสุนัขทุกตัว ส่วนโครงการชุมชนคนรักหมายังคงดำเนินการอยู่ เราอยากให้คนและสุนัขอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข"

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเฟซฯดังกล่าวมีผู้เข้ามาโพสต์ข้อความแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก
 
ทั้งนี้บางส่วนกล่าวถึงสาเหตุว่าทำไมสุนัขถึงชอบมานอนหน้าร้านเซเว่นเกือบทุกสาขา บางคนก็ระบุว่าอาจเพราะสุนัขชอบแอร์เย็น ๆ ที่เวลาคนเดินเข้าออกประตูจะเปิดอัตโนมัติ บางคนก็ให้เหตุผลว่าเพราะสุนัขมีความสัมพันธ์กับคน หากได้อยู่ใกล้คนแล้วจะรู้สึกว่าปลอดภัย ขณะที่บางคนกล่าวติดตลกว่า ไม่ได้เป็นสุนัขจึงไม่รู้ว่าพวกมันทำไปด้วยเหตุผลใดกันแน่.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์