ทำท่าจะลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งบานปลายมากขึ้น จากกรณีสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา
มีมติ 32 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เห็นชอบการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ พ.ศ... เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพื่อแยกพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ประกอบด้วย อ.บัวใหญ่ บ้านเหลื่อม ประทาย คง โนนแดง แก้งสนามนาง บัวลาย และสีดา ไปเป็น จ.บัวใหญ่ เป็นจังหวัดที่ 78 ของประเทศ ซึ่งตามมาด้วยเสียงเห็นด้วยและคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่อย่างมากมาย กระทั่งทำให้ นายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท ประธานสภา อบจ.นครราชสีมา ต้องยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อลดกระแสความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังปรากฏว่าความเคลื่อนไหวจากทั้ง 2 ฝ่ายตามมาอย่างต่อเนื่อง
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 กันยายน กลุ่มมวลชนกว่า 1 พันคนจาก 8 อำเภอ
คือ บัวใหญ่ บ้านเหลื่อม ประทาย คง โนนแดง แก้งสนามนาง บัวลาย และสีดา นำโดย นายคำพันธ์ บุญยืด อดีตหัวหน้าการประถมศึกษา อ.บัวใหญ่ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ประจำ อ.บัวใหญ่ เพื่อแสดงพลังต้องการขอแยกตัวออกมาตั้งเป็น จ.บัวใหญ่ โดยแกนนำแต่ละอำเภอได้ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว หลังจากเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มคัดค้านการแยกจังหวัดได้บุกเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดโคราชเพื่อคัดค้าน พร้อมกับตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ 50,000 รายชื่อให้ยับยั้งเรื่องดังกล่าว
นายคำพันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้ง 8 อำเภอ เปรียบเสมือนแอฟริกาของโคราช เสียโอกาสในการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่และสถาบันอุดมศึกษา ลูกหลานต้องเดินทางกว่า 100 กิโลเมตรเพื่อไปเรียน หลายครั้งมีผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างเคลื่อนย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชในตัวเมือง เปรียบเสมือนพลเมืองชั้นสอง จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้อง
รายงานข่าวแจ้งว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ นายโกศล ปัทมะ อดีต สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย น้องชายของ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ให้การสนับสนุนมวลชน เนื่องจากต้องการผลักดันให้มีการจัดตั้ง จ.บัวใหญ่ มาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน กลุ่มเสื้อแดงโคราชประมาณ 20 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เพื่อนำดอกไม้มามอบเป็นกำลังใจให้ นายกิตติพงษ์ ที่ต้องลาออกจากตำแหน่งประธานสภา อบจ. แต่ นายกิตติพงษ์ ไม่ได้มารับมอบแต่อย่างใด นายกิตติพงษ์ เปิดเผยว่า ที่ไม่ไปรับดอกไม้เพราะไม่ต้องการให้กระแสความขัดแย้งกระจายออกไปอีก ซึ่งการลาออกเป็นเพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ได้หารือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เพราะเกรงจะเกิดข้อครหาว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลัง ส่วนสภา อบจ.นครราชสีมา จะทบทวนมติดังกล่าวหรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูท่าทีของสมาชิกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะแม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีการขอให้ทบทวนมติใดๆ มาก่อน แต่หากเรื่องดังกล่าวสร้างความแตกแยกก็สามารถทำได้
ด้าน นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ความเห็นว่า
ความจริงเรื่องนี้คนในพื้นที่ 8 อำเภอควรเคลื่อนไหวผลักดันด้วยตัวเอง เพราะพอส่งไปให้สภา อบจ. จะทำให้กลายเป็นเรื่องการเมืองไป 100% ทำให้คนไม่ไว้ใจและเกิดแรงต่อต้านสูงขึ้น ยิ่งดูจากท่าทีของ นายก อบจ. และ สจ. ที่เริ่มกลับลำหลังจากเกิดกระแสต่อต้านก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
นายทวิสันต์ กล่าวอีกว่า การขอแยก จ.บัวใหญ่ คงทำไม่ได้ง่ายๆ เพราะมีความผูกพันทางด้านจิตใจด้วย ขณะที่คนใน 8 อำเภอส่วนหนึ่งก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เช่น “กำปั่น บ้านแท่น” ศิลปินแห่งชาติเพลงโคราช ซึ่งเป็นคน อ.บัวใหญ่ ก็ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นคงไม่ถึงกับเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว