ฮือฮา!! ตำรวจ B-Boy จ.ชัยนาท เปิดใจถึงที่มาของคลิปเต้น

(ชมคลิป) ตำรวจ B-Boy จ.ชัยนาท เปิดใจถึงที่มาของคลิปเต้น - เผยคิวออกทีวีแน่น

จากคลิปภาพตำรวจอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เต้น B-Boy ในเครื่องแบบเป็นที่ประทับใจแก่ผู้ชมเป็นจำนวนมาก อีกส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้มีหน้าตาหล่อเหลาเข้าขั้นดารา และขณะนี้คิวออกสื่อแน่น งานเข้าตรึม ผู้สื่อข่าวจึงไปติดตามถึงความเป็นมาก่อนจะมาเป็นตำรวจเต้น B-Boy ได้อย่างไร ถึงที่ สภ.มโนรมย์

ส.ต.ต.ปริญญา  จิตต์คำ  หรือ เบนซ์   ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สภ.มโนรมย์  กล่าวว่า บ้านเกิดอยู่จังหวัดเชียงราย บิดารับราชการตำรวจ  มารดาอาชีพค้าขาย 

เรียนจบจากโรงเรียนสามัคคีวิทยา อ.เมือง จ.เชียงราย  หลังจากจบ ม.6 สอบเข้าตำรวจได้ เมื่อเรียนครบหลักสูตร ได้เลือกบรรจุลงปฏิบัติงานที่ สภ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เนื่องจากเคยผ่านมาแล้วแวะทานข้าวที่อำเภอมโนรมย์ เห็นต้นไม้เยอะ เป็นธรรมชาติดี อีกอย่างอยู่ใกล้กับเขตภาคเหนือด้วย เป็นเขตติดต่อ ภาค 6 คือ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เดินทางกลับบ้านที่เชียงรายสะดวก มาปฏิบัติงานได้ประมาณ 9 เดือน  งานที่รับผิดชอบเป็นงานด้านธุรการ เช่น การรับ ส่งหนังสือ และได้ร่วมงานในชุดตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ไปทำกิจกรรมร่วมกับประชาชน ประชาสัมพันธ์งานของโรงพัก  งานอดิเรกเวลาว่างจากงาน คือร้องเพลง  และเต้น B-Boy หรือที่รู้จักกันว่า เบรคเด๊นซ์  โดยไปซ้อมเต้นกับน้องๆ ที่โรงเรียนอุลิตไพบูลย์ชนูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนระดับมัธยม ประจำอำเภอมโนรมย์  การซ้อมเต้นเราก็ซ้อมของเรา แต่พอน้องๆเห็นแล้วสนใจให้เราสอนให้ ขณะนี้เกิดทีมเต้นขึ้นมาแล้ว น้องๆประมาณ 10 คน เตรียมทำโชว์ที่ตลาดถนนคนเดินคุ้งสำเภา ของอำเภอมโนรมย์   

คลิปที่ออกไปเป็นกิจกรรมที่โรงพัก สภ.มโนรมย์ เป็นการจัดกิจกรรมของโรงพัก เป็นกิจกรรม ลด ละ เลิก อบายมุข สร้างสุขให้ประชาชน

  เป็นกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชน  งานวันนั้นช่วงเช้ามีกิจกรรมทำบุญตักบาตรร่วมกับประชาชน ช่วงสายมีพิธีเทเหล้าเผาบุหรี่ แล้วมีโชว์เล็กๆน้อยๆจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการเต้น B-Boy มี ร.ต.ท.หญิง บุปผา  รัตนโชติ  เป็นคนถ่ายคลิปให้ ครั้งแรกลงเฟสบุคก่อน มีแชร์ไปยังเพจมุมดีดี แล้วแชร์ต่อๆกันไปจนเข้าไปถึง you tube จากนั้นทางช่อง 3 ช่อง 7 ช่อง 9 ก็นำไปออกรายการ หลังจากนั้นก็มีรายการทีวีติดต่อให้ไปออกรายการหลายช่อง เช่น รายการ ณ จุดนี้ ของไบรท์ทีวี    รายการสปอตไลท์แซบแซบ ของเนชั่นทีวี และยังมีติดต่อมาอีกหลายแห่ง  นอกจากนี้ยังมีงานของโรงพักข้างเคียงทำหนังสือขอตัวไปร่วมกิจกรรมอีกด้วย

เริ่มเต้น B-Boy เริ่มแรกมีรุ่นพี่ข้างบ้านสอน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ต่อมาศึกษาคลิปในยูทูป แล้วฝึกมาเรื่อยๆ จนได้เข้าแข่งขันเจอกับ B-Boy ทั่วประเทศ
 
ได้มีการแชร์ท่าเต้นกันทำให้เรามีประสบการณ์และมีท่าใหม่เพิ่มขึ้น เคยประกวดเต้น เบทเทินออฟเดอะเยียร์ เป็นงานประจำปี เมื่อปี 2010 ได้รางวัลที่ 5 ของภาคเหนือ ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.5  ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้เข้าประกวดงานเล็กๆมาหลายงานแล้ว    

จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจเต้นเริ่มเมื่อช่วงปิดเทอมใหญ่จะขึ้น ม.3  มีอยู่วันหนึ่งจะไปหาพี่ข้างบ้าน แต่ไม่พบไม่รู้ว่าพี่เขาหายไปไหน

มารู้ตอนหลังว่าเขาไปเต้น B-Boy จึงตามไปดู เสียงเพลงสนุกดีจึงเต้นไปด้วย ต่อมาให้พี่เขาสอนเขาออกงานที่ไหนก็ไปกับเขาตลอด ทั้งลำปาง เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ได้เจอคนเยอะๆสนุกดี จนถึงปัจจุบันเต้นมา 5 ปีแล้ว การมาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจขณะนี้ทำให้เวลาในการฝึกซ้อมลดลงจากปกติ  ตอนที่เรียนฝึกซ้อมวันละ 4-5 ชั่วโมง/วัน ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน เมื่อทำงานแล้วมีหน้าที่ต้องทำมีงานรับผิดชอบมากขึ้น  ตอนนี้ใช้เวลาว่างหลังเลิกงานวันจันทร์-ศุกร์ สอนเด็กด้วย ซ้อมของเราไปด้วย ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ พักผ่อน

ด้านการสนับสนุนของผู้กำกับ  สภ.มโนรมย์  ทีแรกก็เกรงว่าท่านจะไม่เห็นด้วย
 
แต่เมื่อเราทำไปประชาชนเห็นแล้วชอบทำให้ท่านเห็นว่าตรงนี้เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน และได้สนับสนุน เช่น ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ไปร่วมกิจกรรมรวมพลคนแดร์ ของจังหวัดนนทบุรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เซ็นต์หนังสืออนุญาติให้ไป ตอนนั้นดีใจมากที่ได้ไปจังหวัดนนทบุรี เพราะว่าจัดงานยิ่งใหญ่ เป็นเกียรติมากที่ได้อยู่ในงานนั้น และได้โชว์ความสามารถ ได้เต้นให้เด็กๆดู  ภูมิใจมากเพราะคาดไม่ถึงว่าความสามารถของเราตรงนี้จะทำให้ผู้ใหญเขายอมรับ  และต้องกล้าโดยการใส่เครื่องแบบตำรวจเต้น สุดท้ายแล้วผลตอบรับดีเกินคาด   แรกไม่กล้าใส่ท่าที่ต้องหมุนเยอะเพราะเสี่ยงเสื้อผ้าขาดแต่เมื่อลองซ้อมแล้วทำได้ แต่ก็เต้นได้อยู่ในระดับหนึ่ง

ตอนนี้กำลังเรียนต่อระดับปริญญาตรี ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ ปีที่ 1 โดยวิธีเรียนทางไกล อ่านหนังสือแล้วไปสอบ ช่วงเวลาอ่านหนังสือตั้งแต่เวลา 20.00-22.30 น. ใช้เวลาเรียน 4 ปี เมื่อจบแล้วจะสอบเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร

ความประทับใจในหน้าที่ตำรวจของบิดา  พ่อทำงานอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่เชียงราย พ่อทำงานหนักต้องขึ้นเขา ลุยป่า 

ตอนเด็กๆเคยถามพ่อว่า พ่อทำอย่างนี้ไม่เบื่อ  ไม่เหนื่อยบ้างหรือ  พ่อบอกว่าเขาเลือกที่มาเป็นตำรวจ ต้องทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ต้องเอาคนไม่ดีเข้าคุก ภาพพ่อแต่งชุดเขียวเข้าป่า ขึ้นดอย กลับบ้านมามอมแมม และคำพูดของพ่ออยู่ในหัวตลอดเวลา  ครั้งใดที่ทำงานเหนื่อยๆก็จะนึกถึงพ่อและตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ถามเรื่องมีแฟนหรือยัง  ตอนนี้ดูกันอยู่ รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เป็นคนเชียงรายเหมือนกันแต่อยู่คนละโรงเรียน เคยถ่ายหนังสั้นด้วยกัน ตอนเรียนอยู่ ม.6  ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง  เขาทำหนังที่นักแสดงต้องเต้นพอดี เลยได้เล่น และสนิทกันมาตั้งแต่ตอนนั้น

คติในการทำงาน ตั้งใจทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด เราเป็นตำรวจต้องช่วยเหลือประชาชน ทั้งในโรงพัก นอกโรงพัก ต้องเป็นที่พึงของประชาชน ไม่ว่าจะเหนื่อยอย่างไรก็ต้องทำ