เมื่อวันที่ 4 กันยายน ช่วงเช้า กลุ่มสภาหน้าโดม ได้ติดป้ายประท้วงทั่วมหาวิทยาลัยเพื่อคัดค้านการฝ่าฝืนกฎมหาวิทยาลัย มีเนื้อความว่า “TU130 แหกกฎมหาลัย บังคับใส่ชุดนักศึกษา"
เมื่อผู้สื่อข่าว ได้สอบถามรายละเอียด สมชิกในกลุ่มได้ ได้อธิบายถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า สืบเนื่องจากเมื่อปีการศึกษา 2556 นักศึกษาได้ประท้วงการบังคับใส่ชุดนักศึกษาในวิชา TU130 ซึ่งเป็นวิชาบังคับ แต่การบังคับเกิดขึ้นเมื่อเรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่ง เพราะเนื่องจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่มีกฎข้อบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษาเข้าห้องเรียน ต่อมารองอธิการบดีฝ่านการนักศึกษา มีคำสั่งให้ยกเลิกการบังคับใส่ชุดนักศึกษาเข้าห้องเรียนในวิชาดังกล่าว เพราะขัดกับกฎข้อบังคับมหาวิทยาลัย
ขณะที่ล่าสุดในปีการศึกษา 2557 นักศึกษาเปิดเผยว่าอาจารย์ท่านเดิม ท่านเดียวกับที่บังคับใส่ชุดนักศึกษาเมื่อปี 2556 ได้ฝ่าฝืนกฎมหาวิทยาลัย และใช้มาตรการบังคับนักศึกษาให้ชุดนักศึกษา มิเช่นนั้นจะไม่แจกกระดาษคำตอบเก็บคะแนนย่อย รวมถึงจะตำหนิว่ากล่าวนักศึกษาที่ไม่ใส่ชุดนักศึกษามาด้วยถ้อยคำที่รุนแรง
ซึ่งในวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา อาจารย์ท่านดังกล่าว ได้มาสอนตามปกติ ในวิชา TU130 เซคบ่าย 400001 เซคใหญ่ผู้เรียน 1,000 คน และเมื่อถึงเวลา เก้าอี้ได้เต็ม จึงมีนักศึกษาจำนวนหนึ่งนั่งที่พื้น หากแต่อาจารย์กลับ ตำหนิด้วยถ้อยคำว่า “นั่งพื้นฉันไม่สอน เพราะเหมือนเด็กวัด”…“ทำตัวเป็นเด็กวัด” ทำให้นักศึกษาในห้องกว่า 1,000 คน ได้ส่งเสียงโห่แสดงความไม่พอใจที่อาจารย์ได้ใช้คำพูดเช่นนั้น เพราะแสดงถึงการดูถูกเด็กวัด ซึ่งถือเป็นการเหยียดสถานะทางสังคมของเด็กวัด ว่ามีสถานะที่ต่ำกว่านักศึกษา ซึ่งไม่ควรจะเกิดการเหยียดแบบนี้
และในเวลา 23.00 น. กลุ่มสภาหน้าโดม ได้นำป้ายประท้วงไปติดทั่วมหาวิทยาลัย โดยมีเนื้อความ เช่น “เด็กวัดแล้วยังไง?” “ฉันไม่สอนเด็กวัด เพราะเด็กวัดนั่งพื้น”
ทั้งนี้ในประเด็นดังกล่าว สมาชิกกลุ่มสภาหน้าโดม เปิดเผยว่า เป็นกระแสที่พูดคุย ถกเถียงกันของนักศึกษา และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า อ.ที่สอนในวิชาTU130 เซค 400001 พูดจาไม่เหมาะสมแก่อาชีพของครู ที่ต้องแก้ปัญหาสังคม และผลิตบัณฑิตไปพัฒนาสังคม ไม่ใช่การพูดเพื่อผลิตซ้ำให้เกิดปัญหาสังคม