นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีรถยนต์หายไปจากคลังทัณฑ์บนของกรมฯ ไม่ยอมมาเสียภาษีอย่างถูกต้องกว่า 500 คัน โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตามรถยนต์ดังกล่าวกลับคืนมา
ล่าสุดได้คืนมาแล้วกว่า 100 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์หรูราคาแพง (ซุปเปอร์คาร์) และยังตรวจสอบว่า
เริ่มมีการนำรถมอเตอร์ไซด์ราคาแพงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ (บิ๊กไบค์) จำนวนมาก และหายไปจากระบบไม่ยอมมาเสียภาษีกว่า 80 คันแล้ว
“หลังจากพบเรื่องดังกล่าว สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมทั้งได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 2 คน จากนี้ไปตรวจสอบให้เข้มงวดมากขึ้น ปัญหานี้อาจเกิดมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง และในช่วงที่ผมเป็นอธิบดีจะเข้มงวด และตรวจสอบให้จริงจัง ถ้ามีเจ้าหน้าที่ทุจริตเอาไว้ไม่ได้ และเรื่องนี้ต้องทำอย่างจริงจัง”
นายสมชัย กล่าวว่า ลักษณะของรถที่หาย คือ เมื่อรถเข้ามาที่ท่าตรวจสินค้าแล้ว ผู้นำเข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจปล่อยที่ด่านที่ควรจะปล่อย
แต่จะขอไปตรวจปล่อยสินค้ายังอีกด่านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กันแทน อาจจะเป็นเพราะคุ้นเคยกับด่านดังกล่าว และระหว่างการ เคลื่อนย้ายสินค้าจากอีกด่านหนึ่งไปอีกด่านหนึ่งนั้น รถยนต์ก็หายไปจากระบบและไม่นำมาเสียภาษีอย่างถูกต้องเป็นการหายเคลื่อนย้าย รถ
นอกจากนี้ ยังมีอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ขอเอารถไปเก็บไว้คลังสินค้าทัณฑ์บน ตามเวลาที่ผ่อนผันคือไม่เกิน1ปี
เมื่อขายได้นำรถออกมาเสียภาษี เพราะรถดังกล่าวมีราคาแพง ต้องเสียภาษีในมูลค่าสูงผู้นำเข้าไม่อยากจ่ายเงินภาษีไปก่อน ดังนั้น จะรอให้ขายรถได้ก่อนจึงมาเสียภาษี ซึ่งระหว่างที่สินค้าอยู่ในคลังทัณฑ์บนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แก้ปัญหาอย่างถาวรสั่งการให้ติดตั้งเครื่องติดตาม (RFIDGPS)
สำหรับสินค้าที่นำเข้าราคาแพงทั้งซุปเปอร์คาร์และบิ๊กไบค์ที่ยังไม่เสียภาษี เพื่อดูว่าสินค้านั้นจะไปที่ไหน และเดินทางไปอย่างไร หากหายไปจะสามารถตามกลับมาคืนได้ง่าย พร้อมกันนี้ยังสิ่งให้เปิดเครื่องเอ็กซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ เพื่อตรวจสอบสินค้านำเข้าว่าเป็นสินค้าชนิดใด แจ้งไว้อย่างถูกต้องหรือไม่