พ่อแม่เหยื่อรับน้องโหดร่ำไห้รับศพ

แพทย์ระบุ "น้องกัน" เหยื่อรับน้องเสียชีวิต ระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว แม่วิงวอนขอให้น้องเป็นศพสุดท้าย ส่วนคดีไม่ขอพูดถึงรอจัดการศพตามประเพณีก่อน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 ก.ย. ที่สถาบันิติเวชวิทยา

รพ.ตร. นายภาณุพงษ์ พร้อมด้วย นางศิริวิมล แสงโรจน์รัตน์ บิดาและมารดาของนายโภไคย แสงโรจน์รัตน์ อายุ16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตช่วงระหว่างไปร่วมกิจกรรมรับน้องที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา เดินทางมารับศพบุตรชายพร้อมด้วยเพื่อนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศุลที่วัดชินวราราม ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นาย ภาณุพงษ์ กล่าวว่า ขอให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้าย และอยากให้มีการแก้ไขหรือทำอะไรที่ดีกว่านี้เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความ ละอายใจ

พร้อมเรียกร้องไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้คิดวิธีรับน้องใหม่ที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดเนื่องจากอยู่ ระหว่างรอการประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งช่วงนี้ขอให้ทำพิธีศพบุตรชายให้เรียบร้อยก่อน

ด้าน นางศิริวิมล กล่าวว่า สำหรับในวันนี้ได้เดินทางมารับศพน้องกันพร้อมทั้งติดตามผลการชันสูตร

โดยแพทย์ได้แจ้งกับตนถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายว่า ระบบหายใจและระบบโลหิตล้มเหลว ในส่วนของคดีความนั้นตนยังไม่ขอพูดเนื่องจากจะต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียด ที่จะทราบภายใน 2 เดือนเสียก่อน ว่าเป็นเรื่องทำร้ายร่างกายหรือเสียชีวิตตามธรรมชาติ พร้อมทั้งอยากจะวิงวอนไปยังกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องของออกกฎหมายมารองรับ เกี่ยวกับกิจกรรมรับน้องให้มีมาตราการที่เข้มงวดมากกว่านี้ ไม่อยากให้ทางวิทยาลัยต่างๆ มีกิจกรรมรับน้อง ขอให้ลูกแม่เป็นศพสุดท้ายที่เกิดเรื่องจากกิจกรรมรับน้อง ขอให้เป็นกรณีตัวอย่าง และอยากจะฝากให้วิทยาลัยเข้มงวดถึงเรื่องความปลอดภัย ของนักศึกษามากกว่านี้

นาง ศิริวิมล กล่าวเพิ่มว่า ตนนั้นประกอบอาชีพเปิดร้านขายข้าวแกงอยู่แถวบ้าน น้องกันถ้าว่างหลังเลิกเรียนนั้นจะรีบกลับมาช่วยแม่ที่ร้านข้าวแกงอยู่เป็นประจำ

ไม่เคยเกเรหรืออกไปเที่ยวเตร่ตอนกลางคืนเลย โดยก่อนวันเกิดเหตุเวลาประมาณบ่ายสามของวันที่ 29 ส.ค. ลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า ผมขอไปเที่ยวทะเลกับรุ่นพี่ที่วิทยาลัยพร้อมทั้งบอกกับผู้เป็นแม่ว่าไปแล้ว นะไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งตนนั้นได้แจ้งกับทางวิทยาลัยว่าอย่าให้ลูกชายทำอะไรหนักๆ เนื่องจากน้องกันนั้นมีปัญหาเรื่องหอบหืด จนกระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 30 ส.ค.ตนและญาติมาทราบข่าวว่าลูกชายนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว ตนมีบุตรชายเพียงคนเดียว ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก แต่ลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากนี้จะต้องพยายามใช้ชีวิตต่อไปตามปกติให้ได้..