ร้องตร.ถูกสาวประเภทสอง อ้างรู้จักคนดังหลายตระกูล-ตุ๋นเงินนับสิบล้าน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่สน.ทองหล่อ น.ส.หทัยรัตน์ สิริศรีสกุลชัย อายุ 30 ปี พร้อมด้วย น.ส.ณัฐณิชา แซ่เอี้ย อายุ 25 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อาทิตย์ เกตุผ่อง พงส.สน.ทองหล่อ เพื่อร้องทุกข์ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายยูรา ศรีโสภาศิริ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 663/5 ถ.อิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม. หลังถูกนายยูรา สาวประเภทสอง หลอกให้โอนเงินร่วมลงทุนและเชิดรถยนต์ไป มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
น.ส.หทัยรัตน์ เปิดเผยว่า ตนทำงานบริษัทเดียวกับนายยูรา เป็นบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รู้จักกันเพราะนายยูราเป็นคนสัมภาษณ์รับตนเข้างาน อีกทั้งอ้างว่าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น เพิ่งกลับจากเรียนที่ประเทศอังกฤษ อ้างว่ารู้จักกับคนมีชื่อเสียงตระกูลดัง ไม่ว่าชินวัตร ภิรมย์ภักดี และเทวกุล รู้จักกับคนในวงการบันเทิงอย่าง แก๊งนางฟ้า จากนั้นได้ชักชวนตนร่วมลงทุนธุรกิจร้านทำเล็บที่เขาใหญ่ ลงทุนคนละ 660,000 บาท แต่ตนบอกว่ามีเงินลงทุนได้แค่ 300,000 บาท
เมื่อถึงวันโอนเงิน นายยูราบอกให้ตนกดเงินสดไปให้ ตนก็บอกว่าไม่สะดวกที่จะเอาเงินก้อนมาให้ จึงขอเลขบัญชี ซึ่งนายยูราได้ให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีนายจงเจตน์ หวังวรลักษ โดยในเวลานั้น ตนเอะใจว่าทำไมต้องโอนเข้าบัญชีนี้ แต่นายยูราบอกว่าบัญชีของนายยูราอยู่ที่ต่างประเทศต้องเสียค่าธรรมเนียม หลังจากนั้นตนก็สอบถามความคืบหน้า ปรากฏว่านายยูราก็ได้บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมาตนได้มารู้ความจริงจากรุ่นพี่ที่รู้จักกันว่านายยูราได้หลอกลวงเหยื่ออีกราย คือ น.ส.ณัฐณิชา จึงได้ปรึกษากัน เพื่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตร.
ส่วน น.ส.ณัฐณิชา กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แม่ของตนได้ไปปรึกษากับเพื่อนเรื่องตนจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเพื่อนของแม่ก็แนะนำนายยูราให้รู้จัก เนื่องจากนายยูราอ้างว่าตัวเองก็เรียนจบจากประเทศอังกฤษเหมือนกัน แต่แม่ของตนไม่ได้สนใจ ต่อมานายยูราได้ตามมาที่บ้านของตน ซึ่งก็ไม่ทราบว่ารู้จักบ้านตนได้อย่างไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยรู้จักกัน เมื่อมาถึงนายยูราได้นำเอกสารการเรียนมาแสดงด้วย พร้อมกับแนะนำรายละเอียดการเรียนต่อต่างประเทศให้กับตน ระหว่างนั้นก็จะมีการพูดแอบอ้างว่ารู้จักกับคนมีชื่อเสียงหลายคนทั้งในวงการบันเทิงและนักธุรกิจ
จากนั้นก็จะมาหาตนทุกวัน ทั้งที่ตนก็ไม่ได้นัดหมาย อีกทั้งอ้างกับพ่อตนว่าเป็นลูกกำพร้า เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ อีกทั้งอ้างว่าเป็นญาติห่างๆ ของตระกูลภิรมย์ภักดี โดยเป็นลูกบุญธรรม จนพ่อของตนยอมใจอ่อน เพราะเห็นว่าเป็นคนเรียนดี และได้รับเข้ามาทำงานที่บริษัทตน ซึ่งประกอบกิจการธุรกิจนำเข้ากล่องและอุปกรณ์สายล่อฟ้า โดยมอบหมายให้ทำหน้าที่ติดต่อดีลนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ต่อมานายยูราได้สั่งนำเข้าสินค้าหลายล็อต เป็นเงินหลายล้านบาท
ต่อมานายยูราได้ซื้อรถมินิ คูเปอร์ ทะเบียน ญต 2931 กทม. ซึ่งเป็นรถมือสองมาขับ จากนั้นได้ขอให้พ่อตนซื้อรถมินิคูเปอร์คันใหม่ให้ ทะเบียน ณ 8854 กทม. ทะเบียนป้ายแดง และให้เอารถคันเก่ามาให้ตน อย่างไรก็ตาม ตนเริ่มสงสัย เมื่อนายยูรามาที่บ้าน แต่ไม่ได้ขับรถคันใหม่มา อ้างว่ารถกระจกร้าว ซ่อมอยู่ที่ศูนย์ แล้วมาขอยืมรถคันเก่าที่เอามาให้ตนขับไปใช้ อ้างว่าขับไปซื้อของช่วยงานศพพ่อเพื่อน ตนจึงสืบเรื่องดังกล่าว ทราบว่านายยูรา เปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง จากนั้นมา นายยูราก็หายไป ไม่ค่อยได้มาที่บ้านตน ทั้งที่ช่วงแรกมาทุกวัน ตนจึงรู้ว่าครอบครัวถูกหลอก จึงแจ้งความไว้ที่สน.ยานนาวา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ ได้เดินทางไปยังบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในตึกมาลีนนท์ พร้อมกับเชิญตัวนายยูรามาสอบสวน เบื้องต้นพบว่า ได้เปลี่ยนชื่อมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และนายยูราให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อหา และปล่อยตัวกลับไป ก่อนที่จะเรียกมารายงานตัวอีกครั้ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
