‘รบพิเศษ’บุกลำตะคอง แฉบกตร.! ฮุบที่สร้างคฤหาสน์หรู

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2

พร้อมด้วยพ.ท.สิรวิชญ์ แข็งขัน ผู้บังคับการรบพิเศษ ศูนย์สงครามรบพิเศษ ลพบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและกรมที่ดินเข้าตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ทหารบริเวณ ชะง่อนผาเขาหนองเชื่อมพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคลอง บ้านหนองตะกู ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเข้าตรวจสอบที่ดินในครั้งนี้ พบมีบ้านพักตากอากาศปลูกบนยอดเขาดังกล่าวหลายหลัง

มีการเทปูนพื้นคอนกรีต 2 เลน ยาวกว่า 5 กิโลเมตร บ้านหลังแรกพบเป็นบ้านพักหรู 1 ชั้นสร้างเสร็จแล้วตั้งอยู่ขอบยอดเขาวิวสุดสวย พร้อมมีสระว่ายน้ำหลังบ้าน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นของนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)ท่านหนึ่ง ซึ่งมีภาพถ่ายขณะประดับยศ พร้อมภาพถ่ายในอิริยาบทต่าง ๆ ที่แสดงออกถึงความเป็นเจ้าของบ้าน

จากการสอบถามนายเสวก อรรถกิจวิโรจน์ หรือจ่า เสวก อายุ 53 ปี อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ คนดูและพื้นที่

ได้ให้ข้อมูลว่า ตนเป็นเพียงผู้รับจ้างดูแลพื้นที่ โดยบริเวณนี้มีการเข้ามาก่อสร้างบ้านพักและจับจองพื้นที่จากบุคคลหลายกลุ่ม ทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยและนายตำรวจระดับสูงยศพล.ต.ท.และพล.ต.ต. มีตำแหน่งสำคัญในบช.น. ตำรวจภูธรภาค 7 ภาค 9 และตำรวจน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่พบมีการเข้ามาก่อสร้างคฤหาสน์หรูไม่ต่ำกว่า 7 หลังมีทั้งที่ก่อสร้างเสร็จและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ทั้งนี้พ.ท.สิรวิชญ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทหารพยายามปักป้ายระบุแนวเขต ตักเตือน และขับไล่ แต่ผู้บุกรุกไม่เกรงกลัวยังพยายามนำเครื่องจักรเข้ามาก่อสร้างคฤหาสน์หรู อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการปักเสาไฟฟ้า ก่อสร้างถนนคอนกรีตตัดเลาะแนวเขาเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรภายในพื้นที่บุก รุก อย่างไรก็ตาม พื้นที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่ถูกบุกรุกมีสิ่งปลูกสร้างยืนยันชัดเจนว่าเป็น พื้นที่ทหาร เช่น สนามบินและอาคารที่สร้างโดยทหารอเมริกัน

ด้านพ.อ.สมหมาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางผบ.ศูนย์สงครามพิเศษลพบุรี

ทำหนังสือร้องเรียนกองทัพภาคที่ 2 ว่า ถูกนิคมลำตะคองนำพื้นที่ฝึกซ้อมรบของทหารจำนวน 40,000 ไร่เมื่อปี 2508 โดยพื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นพื้นที่ซ้อมรบร่วมระหว่างทหารอเมริกันและทหารไทย ช่วงสงครามเวียดนามเพื่อฝึกส่งไปรบประเทศที่สาม

ต่อมาปี 2515 มีการสร้างเขื่อนลำตะคอง จึงมีการอพยพชาวบ้านท้ายเขื่อนมาอาศัยในพื้นที่และทางนิคมลำตะคอง

ได้เข้ามาจัดสรรที่ดินเป็นแปลงเพาะพืชผลการเกษตรและที่อยู่อาศัย ล็อคละ 15 ไร่ โดยทหารไม่ได้ท้วงติงเพราะทหารที่เป็นคนดูแลอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงปล่อยให้นิคมลำตะคองเข้ามาใช้พื้นที่ทั้งที่ในบริเวณดังกล่าวไม่ใช่ พื้นที่ของนิคมแต่เป็นพื้นที่ของศูนย์การทหารราบรบพิเศษ ลพบุรี

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจสภาพพื้นที่พบสิ่งปลูกสร้าง สนามบินแอล 19 และอาคารที่ทหารอเมริกันเคยสร้างไว้

โดยในจำนวนดังกล่าวมีพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ถูกชาวบ้านบุกรุกปลูกไร่ข้าวโพด จึงทำให้กระทบต่อการฝึกรบประจำปี หลังจากนี้จะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ต่าง ๆ

“จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการออกเอกสารหนังสือแสดงการทำประโยชน์นิคม สร้างตนเอง น.ค.3 เกินจากพื้นที่ของนิคมโดยล้ำเข้ามาในเขตทหารประมาณ 10,000 ไร่ โดยกรมพัฒนาสังคมเพิกถอนเอกสารน.ค.3 และส่งมอบพื้นที่คืนให้ทหารรบพิเศษ หลังจากนี้ทหารจะเข้าตรวจสอบบ้านทุกหลังที่เข้ามาก่อสร้างบุกรุกพื้นที่ของ หน่วยรบพิเศษ หากพบว่ามีการจัดสรรที่ดินเพื่อการค้าจะประสานสำนักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน (ปปง.) เข้ายึดอายัดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป”พ.อ.สมหมายกล่าว

ทางด้านนายแข่งขัน สีตะธานี เจ้าหน้าที่บริหารงานประชาสงเคราะห์นิคมลำตะคอง ยอมรับว่า นิคมออก น.ค.3

ล้ำเข้ามาในพื้นที่ทหารเนื้อที่ประมาณ 10,000 ไร่จริง ที่ผ่านมากรมที่ดินเคยมีหนังสือระงับไม่ให้ออกใบน.ค. 3 ตั้งแต่ปี 2551 แต่ไม่มีการเพิกถอนเอกสารน.ค. 3 ที่ออกไว้เดิม เมื่อทหารมีหลักฐานชัดเจน ในสัปดาห์หน้าจะทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพัฒนาสังคมให้เพิกถอนน.ค.3 ที่ออกทับที่ทหารทั้งหมด ส่วนเรื่องการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจะเป็นหน้าที่ของทหาร