เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นางรมย์ลภัทร อธิพัฒน์วโรดม ปลัดอำเภอชำนาญการ อ.หนองหาน จ.อุดรฯ เดินทางไปตรวจสอบกรณีรับแจ้งมีหญิงสาวถูกล่ามโซ่ไว้นานนับสิบปี ภายในบ้านพัก ที่ ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี สภาพเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่ อบต.พังงูสร้างให้ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนางทองลา (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ซึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่ภายในบ้าน มีนายเดชา อายุ 31 ปี พี่ชายหญิงสาวที่ถูกล่ามโช่ซึ่งอยู่บ้านติดกัน มาเปิดประตูบ้านให้
ภายในบ้านพบหญิงสาวสวมเสื้อผ้าตามปกติ ขาขวาถูกล่ามโซ่ขนาดใหญ่ โดยหญิงสาวบอกว่าชื่อน.ส.กัลยา อายุ 27 ปี หลังเรียนจบ ม.3 ก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็กลับบ้าน
นายเดชากล่าวว่า น้องสาวตนเป็นคนเรียนดี ความประพฤติดี เรียนเก่งด้วย พอจบ ม.3 น้าได้มารับตัวไปทำงานในกรุงเทพฯ ที่ศูนย์เลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง ทำงานได้เพียงสามเดือนน้าก็นำมาส่งที่บ้านบอกว่าน้องสาวของตนมีอาการป่วยทางจิต ตนและแม่ก็นำไปรักษา หมอก็ให้ยาทานที่บ้านอาการก็ไม่ดีขึ้นยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะใกล้วันพระจะมีอาการที่น่ากลัวมากถึงกับต้องจับล่ามโซ่ไว้ ตนขอวิงวอนผู้ใจบุญช่วยนำน้องสาวของตนไปรักษาด้วย และตนเชื่อว่าน้องสาวอาจถูกคุณไสยมาจากกรุงเทพฯ
นางรมย์ลภัทรกล่าวว่า ตนทราบเรื่องจากน.ส.กัลยา ผู้ป่วยแล้วน่าสงสารมาก ได้รายงานให้นายเวียงชัย แก้วพินิจ นายอำเภอหนองหานทราบแล้วเพื่อที่จะหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยได้นัดพี่ชายคนป่วยว่าจะพาไปรักษากับพระอาจารย์ที่มีชื่อที่เกี่ยวกับการถูกคุณไสย ตามที่ญาติเชื่อ และจะหาทางช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ อีก