คสช.แนะกรมราชทัณฑ์ให้ผู้ต้องขังทำครัวเอง

คสช.แนะกรมราชทัณฑ์ให้ผู้ต้องขังทำครัวเอง ลดภาระเงินหลวง ขณะที่เห็นชอบขยายเวลาพัการลงโทษผู้ต้องขังชั้นดี

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษกคสช.แถลงภายหลังการประชุมคสช.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 11/2557   ว่า ที่ประชุมคสช.ได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่กรมราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรม เสนอเพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารปีงบ

ประมาณ 2556 และ 2557 โดยแบ่งเป็นการอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่างบที่ได้รับจัดสรร ปีงบประมาณ 2556 จำนวน 890,402,500 ล้านบาท

และอนุมัติงบกลาง สำหรับปีงบประมาณ 2557 จำนวน 3,417,441,310บาท  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในค่าวัสดุอาหาร เนื่องจากกรมราชทัณฑ์มีจำนวนผู้ต้องขังที่ต้องดูแลประมาณ 290,000 คน ทั้งนี้ หัวหน้าคสช.ได้กำชับให้กรมราชทัณฑ์กำหนดแนวทางให้ลดจำนวนผู้ต้องขังให้น้อยลง และหาวิธีให้กรมราชทัณฑ์ผลิตอาหารด้วยตัวเอง และนำรายได้จากการจำหน่ายสินค้าราชทัณฑ์ให้เป็นสิทธิของผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้คสช.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่... พ.ศ. ... กำหนดหลักเกณฑ์ให้ขยายระยะเวลาการพักการลงโทษผู้ต้องขัง

มีสาระสำคัญ คือ ให้มีการพักโทษนักโทษเด็ดขาด เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงที่บังคับใช้ในปัจจุบันซึ่งกำหนดเกณฑ์พักการลงโทษให้นักโทษเด็ดขาดเป็นเวลาน้อยก ว่า พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2497 โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม ได้รับการพักโทษจากไม่เกิน 1 ใน 3 เป็น ไม่เกิน 1ใน 2 นักโทษเด็ดขาดชั้นดีมาก ได้รับการพักโทษจากไม่เกิน 1 ใน 4 เป็นไม่เกิน 1ใน 3 และนักโทษเด็ดขาดชั้นดี ได้รับการพักโทษ จากไม่เกิน 1ใน 5  เป็นไม่เกิน 1 ใน 4 

ทั้งนี้ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบต่อไป

โดยคสช.เห็นว่าเพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักโทษเด็ดขาดประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยและมีความหวังในการพักการลงโทษและปรับปรุงตัวเป็นพลเมืองดีและคืนคนดีให้กับสังคม แต่ประเภทความผิดที่ไม่สมควรได้รับการพักการลงโทษ ประกอบด้วยผู้ต้องขังในคดีอุกฉกรรจ์ คดีสะทือนขวัญ คดีที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืน คดียาเสพติด รวมทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน.