เมื่อช่วงดึก วันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด ได้รับรายงานว่ามีการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจำนวน 2 นาย ทำการสอบถามเรื่องการออกใบสั่ง หลังจากที่มี 2 นักท่องเที่ยวชาวคูเวตและชาวดูไบ เข้ามาร้องเรียนว่าถูกออกใบสั่งปรับแพง เบื้องต้นทราบว่านักท่องเที่ยวชาวคูเวตนั้นเป็นทหารอยู่ที่ประเทศตนเอง และอีกคนเป็นนักท่องเที่ยวชาวดูไบ โดยเป็นตำรวจที่ประเทศดูไบเช่นกัน โดยทั้งคู่ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา จับที่บริเวณถนนสายพระตำหนัก พัทยาใต้ ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ
และหลังจากที่ พ.ต.อ.ศุภธีร์ บุญครอง รักษาราชการแทน ผกก. สภ.เมืองพัทยา ได้เรียกเข้าไปคุยทั้งนักท่องเที่ยวและตำรวจจราจร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เดินออกจากห้อง ก่อนที่ พ.ต.อ.ศุภธีร์ จะมอบเสื้อให้กับ 2 นักท่องเที่ยวเป็นที่ระลึก พร้อมแสดงอาการตำหนิ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายดะมิส อาลี นักท่องเที่ยวชาวดูไบ ที่มีอาชีพเป็นตำรวจทราบว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ได้ถูกตำรวจจราจรจับแล้วตั้งข้อหาเกินจริง และยังมีการพูดจาไม่สุภาพ ในฐานะที่ตนก็เป็นตำรวจ จึงไม่เข้าใจว่าตำรวจไทยทำไมถึงพูดจาไม่สุภาพกับนักท่องเที่ยว
ส่วนนายบาดัส ชาวคูเวต ที่เป็นทหาร เล่าว่า ตนมาเที่ยวที่เมืองพัทยาครั้งแรก แล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วถูกเรียกจับกุม โดยตนได้โทรศัพท์หาเพื่อนให้มาช่วยพูด ซึ่งจราจรนายหนึ่งแจ้งว่าถ้าจ่ายค่าปรับ ที่เกิดเหตุเลยให้จ่าย 2,000 บาท แต่ถ้าหากไปจ่ายที่ สภ.เมืองพัทยา ราคาค่าปรับอาจจะเพิ่มเป็น 3,000 บาท ซึ่งก็ทำให้ตนไม่เข้าใจว่า เมื่อเป็นผู้ออกใบสั่งแล้วทำไมถึงไม่รู้เรื่องค่าปรับ จึงได้เข้าพบตำรวจระดับผู้มีอำนาจสั่งการเพื่อขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว ต่อมายังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอีกชุดได้ทำการจับกุมกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางในข้อหาขับขี่รถประมาทหวาดเสียวแล้วนำเข้าไปบันทึกจับกุมที่ห้องงานจราจร นานกว่าชั่วโมง ก่อนที่จะมีหญิงสาวที่คาดว่าน่าจะเป็นล่ามแปลภาษา เดินเข้าไปพูดคุยเจรจาต่อรอง จากนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลาง ได้เดินกันออกมา พร้อมยื่นสิ่งของบางอย่างให้กับวินจักรยานยนต์รับจ้างลักษณะคล้ายค่าเคลียร์คดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนดังกล่าวเคยตกเป็นข่าว กรณีคลิปตำรวจฉาวตบหน้าสาวรัสเซีย ถูกโพสต์ขึ้นโดย คุณ Pelgio Leather พร้อมข้อความเขียนใต้คลิปไว้ว่า
“นักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซียเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่กับเพื่อนในเมืองพัทยา แต่ได้กระทำผิดกฎจราจรจึงโดนตำรวจจับ และเขียนใบสั่ง โดยให้เพื่อนไปชำระค่าปรับที่สถานีตำรวจ แต่ระหว่างรอเพื่อนไปชำระค่าปรับตำรวจได้นำชาย 2 คน มายึดรถมอเตอร์ไซค์ แต่นักท่องเทียวหญิงคนนี้ ไม่ยอมให้ยึด และถ่ายคลิปของตำรวจคนนี้ไว้ จึงทำให้ตำรวจเดินเข้าไปตบหน้านักเที่ยวหญิงชาวรัสเซียคนนี้เข้าอย่างจัง จนทำให้หน้าของเธอเกิดรอยแดงอย่างมาก การกระทำของตำรวจนายนี้เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวมาแล้ว”
จากเหตุการณ์ในลักษณะนี้มักเกิดบ่อยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเสมือนเป็นช่องทางหารายได้ให้กับเจ้าหน้าที่บางนาย อีกทั้งในช่วงนี้มีการตั้งด่านตรวจจับวัดแอลกอฮอล์กับนักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกวันที่บริเวณแยกไฟแดงวัดชัยมงคล ซึ่งเป็นแยกแหล่งท่องเที่ยวหลักของกลุ่มชาวต่างชาติ จนสร้างความเบื่อหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาหาความบันเทิง