สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เข้าร้อง พ.ต.อ. ศุภธีร์ บุญครอง รทท.ผกก.สภ.เมืองพัทยา ว่า ถูกตำรวจจราจรพัทยาดักจับรถ และแจ้งข้อหาแถมยังปรับแพงลิ่ว โดยหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จำนวน 2 นาย มาทำการสอบถามเรื่องการออกใบสั่ง หลังที่มี 2 นักท่องเที่ยวชาวคูเวต และชาวดูไบ เข้ามาร้องเรียนว่า ถูกออกใบสั่งปรับแพง
ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่า นักท่องเที่ยวชาวคูเวตนั้นเป็นทหารอยู่ที่ประเทศของตนเอง และนักท่องเที่ยวชาวดูไบเป็นตำรวจที่ประเทศดูไบเช่นกัน โดยทั้งคู่ขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา จับที่บริเวณ ถ.สายพระตำหนัก พัทยาใต้ และหลังจากที่ พ.ต.อ. ศุภธีร์ บุญครอง ได้เรียกเข้าไปคุยทั้งนักท่องเที่ยวและตำรวจจราจร
โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เดินออกจากห้องก่อนที่ทางด้าน พ.ต.อ. ศุภธีร์ บุญครอง จะมอบเสื้อให้กับ 2 นักท่องเที่ยวเป็นที่ระลึก ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ. ศุภธีร์ บุญครอง ก็ได้แสดงการตำหนิ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร
นายดะมิส อาลี นักท่องเที่ยวชาวดูไบ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้ถูกตำรวจจราจรจับ แล้วตั้งข้อหาแพงและยังมีการพูดจาไม่สุภาพ ในฐานะที่ตนก็เป็นตำรวจจึงไม่เข้าใจว่าตำรวจไทยทำไมถึงพูดจาไม่เพราะกับนักท่องเที่ยว
ด้าน นายบาดัส ชาวคูเวต เปิดเผยว่า ตนเองมาเที่ยวที่เมืองพัทยาครั้งแรก แล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์แต่ถูกเรียกจับกุม โดยตนนั้นก็ได้โทรศัพท์หาเพื่อนให้มาช่วยพูด ซึ่งจราจรนายนึงแจ้งว่าถ้าจ่ายเลยให้จ่าย 2,000 บาท แต่ถ้าไปจ่ายที่ สภ. ไม่รู้อาจจะ 2,000-3,000 บาท ซึ่งก็ทำให้ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าในเมื่อเป็นผู้ออกใบสั่งแล้วทำไมถึงไม่รู้เรื่องค่าปรับ จึงได้เข้าพบตำรวจระดับผู้มีอำนาจสั่งการเพื่อขอความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในลักษณะนี้มักเกิดบ่อยกับนักท่องเที่ยวบาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา เสมือนเป็นช่องทางหารายได้ให้กับเจ้าหน้าที่บางนาย อีกทั้งในช่วงนี้มีการตั้งด่านตรวจจับวัดแอลกอฮอล์กับนักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกวันที่บริเวณแยกไฟแดงวัดชัยมงคล ซึ่งเป็นแยกแหล่งท่องเที่ยวหลักของกลุ่มชาวต่างชาติจนสร้างความเบื่อหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาหาความสุขด้านความบันเทิง