เพิ่งสํานึก พ่อออสซี่รับแกมมี่เป็นลูกอีกคน อยากเลี้ยงเอง

พ่อออสซี่สำนึก รับ "แกมมี่"เป็นลูกแฝดของตัวเอง
 
เผยครอบครัวอยากเลี้ยงลูกทั้งคู่เอง สื่อออสเตรเลียพูด 2 ครั้งไม่ตรงกัน ด้านคดี 9 ทารก "เอก อังสนานนท์"ระบุ พ่อชาวญี่ปุ่นชื่อโผล่สูติบัตร 14 ใบ เร่งประสานขอสอบ คาดว่า 18-20 ส.ค.จะมาพบตร. ชุดสืบสวนพบ 10 คลินิกส่อทำอุ้มบุญผิดกฎหมาย

จากกรณีปัญหาเครือข่ายธุรกิจ "อุ้มบุญ" ทั้งกรณีน้อง "แกมมี่" ที่สามีภรรยาชาวออสเตรเลียจ้างหญิงไทยอุ้มบุญ
 
และกรณีมูลนิธิปวีณาฯ และเจ้าหน้าที่ตรวจค้นคอนโด มิเนียม ซอยลาดพร้าว 130 กทม. พบเด็กชายหญิงวัยแรกคลอดอายุ 1 ขวบ รวม 9 คน ซึ่งทั้งหมดมาจากนายมิตสึโตกิ ชิเงตะ อายุเพียง 24 ปี พ่อชาวญี่ปุ่นคนเดียวกัน โดยฝากให้หญิงสาวไทยรับอุ้มบุญ เมื่อคลอดแล้วได้ส่งเด็กกลับประเทศไปแล้ว 3 คน

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้ากรณีหญิงไทยรับจ้างอุ้มบุญให้ครอบครัวชาวออสเตรเลียจนเป็นประเด็นไปทั่วโลกว่า

รายการ 60 นาที ทางสถานีโทรทัศน์ชาแนล 9 ของออสเตรเลีย ได้แพร่ภาพตัวอย่างในการเปิดใจให้สัมภาษณ์ครั้งแรกของนายเดวิด และนางเวนดี้ ฟาร์เนล สองสามีภรรยาชาวออสเตรเลีย ซึ่งเชื่อว่าเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของ "น้องแกมมี่" ซึ่งบันทึกเทปเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อกรณีทิ้งลูกชายฝาแฝดให้น.ส.ภัทรมน จันทร์บัว หญิงชาวไทยผู้รับจ้างอุ้มบุญดูแล หลังพบว่าเด็กป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม จนปลุกกระแสต่อต้านและขุดคุ้ยจนเจอว่า นายฟาร์เนลมีประวัติล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง 3 คน

นายฟาร์เนลกล่าวในบทสัมภาษณ์บางตอนว่า "เราต้องการพาเขากลับบ้านมากับเรา" พร้อมปฏิเสธคำกล่าวหาที่น.ส.ภัทรมนกล่าวว่า นายฟาร์เนลบอกให้ทำแท้งหลังรู้ว่าน้องแกมมี่มีอาการของโรคดาวน์ซินโดรม

"มันเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดมาก เราคิดถึงลูกชายตัวน้อยของเรา บางวันผมกลับบ้านมาพบว่าเวนดี้แต่งตัวให้ลูกสาวของเราด้วยเสื้อผ้าสีฟ้าทั้งตัว เพราะว่าเธออยากจะจดจำลูกชายเอาไว้" นายฟาร์เนลกล่าว

นายฟาร์เนลกล่าวย้ำว่า ตนและนางเวนดี้มีความประสงค์ที่จะให้เด็กทั้ง 2 คนเกิดมา ไม่ใช่ให้น.ส.ภัทรมนไปทำแท้งตามที่ครหา จากนั้นกล่าวปฏิเสธการปัดภาระดูแลน้องแกมมี่ให้กับน.ส.ภัทรมนว่า ตนซื้อนมผงและผ้าอ้อมสำหรับลูกทั้ง 2 คน 

เว็บไซต์ของชาแนล 9 ยังระบุว่า ครอบครัวฟาร์เนลจะบอกเล่าถึงการใช้ชีวิตที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ภายในบ้านที่เมืองบันบูรี รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย
 
เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ราชสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ (อาร์เอสพีซีเอ) บุกยึดสุนัขเลี้ยงภายในบ้านนั้น นายฟาร์เนลกล่าวว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนและนางเวนดี้ยังอาศัยอยู่ในบ้าน นอกจากนี้ นายฟาร์เนลยังวอนขอความเห็นใจจากสังคม ซึ่งครอบครัวฟาร์เนลให้ความร่วมมือกับหน่วยงานคุ้มครองเด็กในการตรวจสอบ และว่าจะดูแลน้องแกมมี่ไปจนเรียนจบ 

ด้านซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮอรัลด์ รายงานว่า น.ส.ภัทรมนกล่าวยืนกรานไม่ต้องการความช่วยเหลือ หรือเงินเลี้ยงดูจากครอบครัวฟาร์เนล

และว่านายฟาร์เนลเคยระบุก่อนหน้านี้ว่าลูกสาวเกิดจากการอุ้มบุญในประเทศไทย แต่ไม่มีพี่น้องฝาแฝด ต่อมานายฟาร์เนลกล่าวกลับคำว่า รู้ตั้งแต่แรกว่ามีลูกฝาแฝด แต่น.ส.ภัทรมนบอกว่าน้องแกมมี่มีอายุอยู่ได้แค่วันเดียว และพวกเขาควรกล่าวอำลากับเด็กก่อนจะเดินทางกลับออสเตรเลีย