ยันชื่อ เฮงจ๊อบแฮบปี้ไลฟ์ เปลี่ยนถูกต้อง(ชมคลิป)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกลายเป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ สำหรับโลกออนไลน์ที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้ที่กระทำความผิดข้อหาขโมยโทรศัพท์มือถือไอโฟน5 เอส รายหนึ่ง ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา ของ อบจ.สุรินทร์ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยชื่อและนามสกุลตามบัตรระบุว่าชื่อ "นายเฮงจ๊อบแฮบปี้ไลฟ์ นามสกุลเมคไลฟ์เบสเทอร์" ซึ่งถือว่าสุดผิดแปลกพิสดารกว่าชื่อคนปกติอย่างมาก ทำให้เกิดความสงสัยว่าสามารถตั้งชื่อแบบนี้ได้ด้วยหรือ อีกทั้งมีกฎเกณฑ์อย่างไรกันแน่

โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามข้อมูลกับ นายวัลลภ เรืองพรเจริญ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ซึ่งปรากฎว่า นายอำเภอติดงานราชการอยู่จึงไม่สะดวก แต่ก็ได้รายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร์ ว่า นายเฮงจ๊อบแฮบปี้ไลฟ์ เมคไลฟ์เบสเทอร์ มีตัวตนอยู่จริง 

โดยอยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 6 ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพิ่งเข้ามาเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2557 ที่ผ่านมา หรือประมาณ 22 วันที่แล้ว ซึ่งจากเดิมชื่อคือ "นายแสน สร้อยสูงเนิน" เกิดวันที่ 20 ธ.ค.2528 มีอายุย่าง 29 ปี ส่วนความหมายของชื่อนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ถาม ขณะที่นามสกุลถามแล้วได้รับคำตอบของความหมายว่าแปลว่า "เพื่อชีวิตที่ดีกว่า"

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎ์ยังได้บอกถึงกฎเกณฑ์รายละเอียดในการร้องขอเปลี่ยนชื่อ-สกุล ตามพ.ร.บ.ชื่อบุคคล พ.ศ.2505 มาตรา 8 ว่า

1.ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธยหรือนามสกุลของพระราชชินี

2.ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่ราชทินนาม ของตน ของผู้บุพการีหรือของผู้สืบสันดาน

3.ต้องไม่ซ้ำกับชื่อสกุลที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ หรือ ชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว

4.ต้องไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย

5.ต้องมีพยัญชนะไม่เกินกว่า 10 พยัญชนะ เว้นแต่กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล

ขณะที่ ร.ต.ท.ปรีชา ชนะ ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีลักทรัพย์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 ก.ค. เวลา 21.00 น. โดย นายเฮงจ๊อบแฮบปี้ไลฟ์ ได้เข้าไปนั่งดูบาสเกตบอลในสวนเแลิมพระเกียรติ ก่อนจะเห็นสมาร์ทโฟนวางอยู่จึงแอบขโมยมา พอผู้เสียหายเดินมาหาโทรศัพท์ก้ไม่พบแล้ว จึงใช้วิธีตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส 

กระทั่งมีสัญญาณออกมาจากตัว นายเฮงจ๊อบแฮบปี้ไลฟ์ ทั้งหมดจึงช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ ก่อนจะโทรมาแจ้งตำรวจ ซึ่งทีแรกพอได้ยินชื่อผู้ต้องหาก็นึกว่าเป็นชาวต่างชาติ แต่พอมาดูกลับพบว่าเป็นคนไทย จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์เวลากลางคืน และส่งตัวฝากขังที่เรือนจำกลางสุรินทร์ ส่วนอาชีพประจำพบว่าเจ้าตัวจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป