เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานงานจากนางหชลนินจ์ สมจิต ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่ามะกรูด ม.11
ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลกว่า บ้านหลังหนึ่งปลูกอยู่ติดกับโรงเรียนมีเด็กพิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อาศัยอยู่กับยายเพียงสองคน เนื่องจากพ่อและแม่ของเด็กต้องไปทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ทั้งๆที่ยายก็ต้องออกไปทำไร่มันสำปะหลังและข้าวโพด โดยระหว่างที่ยายออกไปทำไร่ต้องขังเด็กไว้ตามลำพัง เห็นแล้วรู้สึกเวทนาอยากให้มีหน่วยงานราชการหรือผู้มีจิตเมตตาเข้ามาช่วยเหลือ
หลังได้รับแจ้ง ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว สภาพทรุดโทรม
ภายในบ้านพบน้องใบตอง หรือด.ญ.ปัทมา แก้วมิตร อายุ 13 ปี สภาพร่างกายผอมหนังหุ้มกระดูก นอนอยู่ในอ้อมกอดของยายหวาน นิพวงลา อายุ 67 ปีตลอดเวลา เนื่องจากไม่สามารถนั่งเองได้ ถ้าจะวางลงก็ต้องให้นอนเท่านั้น ปฎิกริยาที่น้องใบตองทำได้อย่างเดียวคือ ยิ้มแสดงให้รู้ว่ามีคนมาหา
ยายหวานเล่าทั้งน้ำตาว่า น้องใบตองเกิดมาก็ปกติดี แต่พอได้อายุ 1 เดือน ก็เกิดอาการชักเกร็ง
จนทำให้เกิดอาการผิดปกติทางสมองตั้งแต่นั้นมา คาดว่าเกิดจากสมองขาดอ๊อกซิเจนนานเกินไป ประกอบกับขณะท้องแม่ของน้องใบตองดื่มเหล้ามาก หลังน้องใบตองซึ่งเป็นบุตรคนที่ 3 เกิด พ่อแม่ต้องนำมาทิ้งไว้กับตน และออกไปทำงานรับจ้างที่จ.สระบุรี เพื่อเลี้ยงลูกอีก 2 คนและต้องส่งเงินมาให้ตนไว้เลี้ยงดูน้องใบตองด้วย แต่ก็ไม่เพียงพอ ตนต้องออกไปทำไร่เพื่อหารายได้เสริมอีกทาง จึงจำเป็นต้องขังน้องใบตองไว้ในบ้านเพียงลำพัง โดยให้นอนอยู่บนผ้าบางๆ เปิดพัดลมไว้ให้ ปล่อยให้ขับถ่ายไปตามสภาพ ช่วงเที่ยงตนก็จะกลับมาป้อนนม หรือให้อาหารทางสายยาง แล้วจึงกลับไปทำไร่ต่อ
นางหชลนินจ์ เผยว่า ครอบครัวนี้ลำบากมาก พ่อแม่ก็ต้องไปรับจ้างขายแรงงานที่จ.สระบุรี
เนื่องจากลำพังประกอบอาชีพทำไร่ในพื้นที่ไม่พอชำระหนี้ที่ไปกู้เงินมาซื้อรถอีแต๋นที่ใช้ทางการเกษตร คล้ายกับหลายครอบครัวในหมู่บ้าน จะอาศัยเงินจากอาชีพเกษตรอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จึงต้องทิ้งบ้านทิ้งครอบครัวออกไปขายแรงงาน และต้องทิ้งลูกไว้ให้ยายเลี้ยงตามลำพัง ซึ่งตนยินดีเป็นสื่อกลางให้ความช่วยเหลือ หากผู้มีจิตกุศลอยากช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 088-4296861