
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ผู้โดยสารรถไฟขบวน รถด่วนพิเศษทักษิณที่ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลกยกโบกี้ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยเมื่อวันที่ 6สิงหาคม ว่า
ขณะนี้กำลังเร่งติดตามโทรศัพท์มือถือของผู้โดยสารที่หายไปทั้ง 10เครื่อง และเงินสด 2,500 บาท เพื่อขยายผลหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ ขณะเดียวกัน ได้เชิญตัวพนักงานรถไฟประจำขบวนดังกล่าวรวม 6 คน มาสอบสวนแล้ว แต่ไม่พบพิรุธ และทุกคนมีประวัติการทำงานที่ดี ส่วนการตรวจสอบปัสสาวะของพนักงานรถนอนประจำตู้ที่10 ซึ่งเป็นตู้เกิดเหตุก็ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟยืนยันว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการลักทรัพย์ธรรมดา
และไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงว่ามีการวางยาบนตู้โดยสาร ส่วนคนร้ายจะเป็นคนนอกหรือคนในนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางนายสถานีรถไฟทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรทุ่งสงแล้ว ส่วนผู้เสียหายก็ให้เข้าแจ้งความตามภูมิลำเนาของตัวเองเพื่อลงบันทึกประจำ วันไว้เป็นหลักฐาน
นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ ระบุว่า
ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นการแฝงตัวของผู้ก่อเหตุที่ขึ้นไปบนขบวนรถเพื่อลักทรัพย์ผู้โดยสาร หรือเป็นการก่อเหตุของพนักงาน รวมทั้งประเด็นที่ผู้โดยสารอาจก่อเหตุขึ้นเอง ส่วนกรณีที่ผู้โดยสารตั้งข้อสังเกตเรื่องการวางยานั้น ยังไม่พบหลักฐานการเชื่อมโยง ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของตำรวจรถไฟด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ได้สั่งการให้พนักงานรถไฟประจำขบวนนี้จำนวน 6 คน พักงานชั่วคราวจนกว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ
นายสมศักดิ์ มะธิปิไข พนักงานรถนอนประจำตู้ที่ 10 ของขบวนดังกล่าว เปิดเผยว่า มีผู้โดยสารอยู่ในตู้จำนวน 32 คน
โดยรถไฟได้จอดรับผู้โดยสารที่สถานีประจวบฯ เป็นที่สุดท้าย จากนั้นในเวลา 4 ทุ่มเศษ ตนได้ตรวจดูความเรียบร้อยภายในตู้ ทั้งจำนวนผู้โดยสาร และในห้องน้ำ ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงได้ปิดล็อกประตู และนอนพักผ่อนประจำข้อต่อทางขึ้น กระทั่งตี 5 รถมาจอดที่สถานีสุราษฎร์ฯ ซึ่งยืนยันว่า หลังจากล็อกประตูไม่มีการเข้าออกภายในตู้นี้อีกเลย ที่สำคัญพนักงานประจำรถนอนทุกคนได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยผู้ โดยสารอย่างดีที่สุด หลังเกิดเหตุฆ่าข่มขืนโหดน้องแก้มบนรถไฟ
ด้าน นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ได้เตรียมประเมินผลกระทบการใช้บริการของประชาชน
หลังเกิดเหตุขึ้นบนขบวนรถไฟอย่างต่อเนื่อง นับจากกรณีของน้องแก้มจนถึงการลักทรัพย์บนตู้โดยสาร แต่เนื่องจากขณะนี้มีการเดินทางไม่มาก จึงไม่สามารถวัดผลได้ชัดเจนนัก ขณะที่เทียบจำนวนผู้โดยสารช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วยังอยู่ในระดับที่เท่าเดิม ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้สั่งเพิ่มมาตรการดูแลด้วยการให้ตำรวจรถไฟตรวจบนขบวนรถทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 24.00 น.-05.00 น. ให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วต้องแจ้งชื่อและหมายเลขบัตรประชาชนเพื่อการตรวจสอบ รวมทั้งจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบนตัวรถด้วย
พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม(ผกก.6 บก.ป.)
เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากกองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) ให้ร่วมสืบหาตัวคนร้าย จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.นรามินทร์ เทพจักรินทร์ สว.กก.6.บก.ป. นำกำลัง ลงพื้นที่สอบปากคำผู้เสียหายรวมทั้งสอบสวนพนักงานรถไฟขบวนที่เกิดเหตุ ทั้งนี้พบว่าโบกี้ที่เกิดเหตุเป็นขบวนเปิด คนนอกสามารถเดินเข้าออกได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ คาดว่าน่าจะสรุปความคืบหน้าทางคดีได้อีกครั้ง หลังจากได้ข้อมูลมามากพอ
ขณะที่ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก เพราะการรถไฟฯ มีมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จึงย้ำให้การรถไฟฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงในเชิงลึก
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว