จ่อตั้งวงจรปิดโรงเรียนชายแดนใต้ หลังถูกลอบวางเพลิงซ้ำซาก

28 ก.ค.57 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ว่า
 
ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในภาคใต้ ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ระดมโครงการต่าง ๆ ลงไปในพื้นที่เพื่อพัฒนาการจัดการการเรียนการสอนและเพิ่มโอกาสให้โรงเรียนในการเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ โดยโครงการที่สำคัญ คือ โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี (CCTV)ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)วงเงิน 577 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำสเปกและร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) โดยโครงการนี้จะมีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีให้กับโรงเรียนประถมศึกษา จำนวน 1,092 โรงที่ตั้งอยู่ใน จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และอีก 4 อำเภอในจ.สงขลา เนื่องจากมีโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สีแดง 443 โรง โดยทุกโรงเรียนจะได้รับการติดตั้งกล้องซีซีทีวี ตามขนาดของโรงเรียน ดังนี้ โรงเรียนขนาดเล็ก ได้รับการติดกล้อง 8 ตัว โรงเรียนขนาดกลาง ติดตั้ง 16 ตัว และโรงเรียนขนาดใหญ่ ติดตั้ง 28 ตัว และติดตั้งให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) ในภาคใต้ด้วย รวมทั้งหมด 5,944 ตัว

"กล้องซีซีทีวีจะถูกติดตั้งบริเวณทางเข้าโรงเรียน อาคารเรียน บริเวณจุดเสี่ยงและรอบรั้วโรงเรียน เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัยให้แก่โรงเรียน โดยกล้องซีซีทีวีจะส่งข้อมูลไปยัง สพป.และ สพม.ในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมข้อมูลของทุกโรงเรียนในพื้นที่และจะมีการบันทึกข้อมูลเก็บไว้ ทั้งนี้ คาดว่าขั้นตอนการจัดซื้อและติดตั้งจะเสร็จทันช่วงปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 เมื่อเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 ทุกโรงเรียนก็จะมีกล้องซีซีทีวีใช้ ขณะเดียวกัน สพฐ.จะเร่งรัดซ่อมแซมรั้วของทุกโรงเรียนเพื่อให้มีรั้วรอบขอบชิดด้วย”ปลัด ศธ.กล่าวและว่า จนถึงปัจจุบันนี้ มีโรงเรียนสังกัด สพฐ.ถูกลอบวางเพลิงแล้ว 350 ครั้งใน 180 โรง บางโรงถูกลอบวางเพลิงซ้ำถึง 8 ครั้ง
               
นางสุทธศรี กล่าวต่อว่า ตนจะสั่งการไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
 
เพื่อให้สช.จังหวัดและ สช.อำเภอ ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลโรงเรียนเอกชนในพื้นที่เดือนละครั้ง นอกจากนี้ สช.ยังเตรียมตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายค่าตอบให้กับครูสอนศาสนาอิสลามของโรงเรียนเอกชน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจข้อมูล สำหรับในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)นั้น ได้เตรียมจัดสรรทุนการศึกษาของเด็กในพื้นที่เพื่อศึกษาต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ