แพทย์เตือนอีก ใส่ บิ๊กอายส์เสี่ยงตาบอด

          เมื่อวันที่ 13 ก.ค. นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ แพทย์เชี่ยวชาญด้านจักษุ รพ.พระนั่งเกล้า เปิดเผยว่า กระแสการใส่บิ๊กอายส์หรือคอนแทคเลนส์ตาโต เริ่มระบาดนิยมในกลุ่มเด็กวัยอายุต่ำกว่า 16 ปี เพราะเลียนแบบดารา นักร้อง นางแบบ และเห็นพี่สาวหรือรุ่นพี่ที่ใส่ โดยบิ๊กอายส์เป็นเลนส์แฟชั่นเปลี่ยนสีของนัยน์ตา และขยายขนาดตาดำ ทำให้ดูตาโต ตาหวาน ตาสีฟ้าเหมือนฝรั่ง แต่การใช้บิ๊กอายส์หรือแม้กระทั่งคอนแทคเลนส์ที่เป็นเลนส์สายตา มีความเสี่ยงอันตราย เพราะคอนแทคเลนส์เป็นสิ่งแปลกปลอม ต้องสัมผัสกับกระจกตาโดยตรงเป็นระยะเวลานาน หากคอนแทคเลนส์สกปรก มีความโค้งไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เกิดอันตราย บาดตาขาว หรือเกิดการติดเชื้อที่กระจกตา อาจลุกลามถึงขั้นตาบอดได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 วัน

นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยจากการบิ๊กอายส์อย่างต่อเนื่อง ที่น่าเป็นห่วงพบเป็นเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 16 ปีมากขึ้นเรื่อยๆ รายล่าสุดตาอักเสบจากการใส่บิ๊กอายส์ราคาถูกที่ขายในตลาดนัดในห้างสรรพสินค้า อีกรายซื้อจากอินเตอร์เน็ต หลังใส่แล้วถอดออกไม่ได้ ตาอักเสบ เป็นแผล ต้องให้การรักษาอย่างเร่งด่วน สามารถป้องกันตาบอดได้ทัน ทั้งนี้คอนแทคเลนส์ที่ได้มาตรฐานการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) จะมีความกว้างไม่เกิน 14.5 มม. หากมีขนาดกว้าง 15-19 มม. ถือว่าผิดกฎหมายหรือเป็นของเถื่อน และผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ควรมีอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และหากจำเป็นต้องใส่ ควรปรึกษาจักษุแพทย์มากกว่าร้านขายแว่นหรือร้านตัดแว่นทั่วไป

นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวอีกว่า ข้อควรระวังในการใส่คอนแทคเลนส์ อาทิ
1.ไม่ควรใส่เลนส์สัมผัสกับผู้ที่มีสภาวะของดวงตาผิดปกติ เช่น ต้อเนื้อ ต้อลม ตาแดง
2.ควรใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ที่ใหม่ เปลี่ยนน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งที่แช่เลนส์
3.ควรเปลี่ยนตลับใส่เลนส์ทุก 3 เดือน
และ4.ห้ามใช้เลนส์ หากภาชนะบรรจุอยู่ในสภาพชำรุดหรือถูกเปิดก่อนใช้งาน เนื่องจากจะมีความเสี่ยงอันตรายต่อการติดเชื้อสูง เป็นต้น