ไอยูซีเอ็นตะลึง ปลานกแก้ว ขายเกลื่อนตลาด ห่วงระบบนิเวศน์ทะเลเปลี่ยน

แฟ้มภาพ : th.wikipedia.org

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นายเพชร มโนปวิตร รองหัวหน้ากลุ่มงานอนุรักษ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ไอยูซีเอ็น) เปิดเผยว่า จากการสำรวจและเก็บข้อมูลตลาดร้านค้าปลาตามแนวชายฝั่งทะเล รวมทั้งในห้างค้าส่งขนาดใหญ่ พบว่า มีการนำปลานกแก้วมาขายกันเป็นจำนวนมากจนน่าใจหาย ทั้งๆที่เดิมปลาชนิดนี้ไม่อยู่อยู่ในความนิยม หรือเป็นเนื้อปลาที่รสชาติดี เหมาะสำหรับนำมาประกอบอาหารแต่อย่างใด ที่สำคัญคือ ปลานกแก้ว ถือเป็นปลาที่ช่วยรักษาระบบนิเวศในแหล่งปะการังที่ดีที่สุดในบรรดาสัตว์ทะเลทั้งหมด

"เราเคยสอบถามไปที่ห้างสรรพสินค้าส่งขนาดใหญ่แห่งหนึ่งว่าปลานกแก้วที่วางขายมีที่มาที่ไปอย่างไรได้รับคำตอบว่ามาจากการเพาะเลี้ยงโดยเอาลูกปลามาจากทะเล มาเพาะเลี้ยงจนมีขนาดที่สามารถนำออกมาขายได้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ปลานกแก้ว เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง กินสาหร่ายทะเลเป็นอาหาร เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด ในช่วงเวลาที่ปะการังบอบช้ำจากการฟอกขาว และเวลาที่มีสาหร่ายมาปกคลุม เพราะปลานกแก้วจะช่วยกินสาหร่าย ทำให้ตัวอ่อนของปะการังสามารถเติบโตได้ อีกทั้งจากการวิจัยเก็บข้อมูล พบว่า ปลานกแก้วแต่ละชนิดนั้น เฉลี่ยแล้ว จะขับถ่ายออกมาเป็นทรายละเอียดถึงปีละ 90 กิโลกรัม โดยเฉลี่ย เป็นการเพิ่มปริมาณเม็ดทรายในทะเล หมุนเวียนแร่ธาตุในแนวปะการัง รวมทั้งถ้ามองแบบลึกๆวิถีชีวิตของปลานกแก้วนั้นเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งในการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งจากการขับถ่ายนั่นเอง"

นายเพชรกล่าวว่าขณะที่เนื้อปลานกแก้วยังไม่เป็นที่นิยมมากนักตนอยากให้หน่วยงานที่ดูแลเรื่องทรัพยากรชายฝั่งทะเล
 
โดยเฉพาะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มาก มิฉะนั้นแล้ว ในอนาคตอันใกล้ หากมีการสร้างกระแสให้กินปลานกแก้วขึ้นมาแล้ว ปัญหาระบบนิเวศน์ในท้องทะเล จะมีมากขึ้น หากปลานกแก้วหายไป

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน