จากรายงานการสำรวจตลาดพีซีรายไตรมาสของไอดีซีเอเชียแปซิฟิก พบว่า ตลาดพีซีในประเทศไทยมียอดจำหน่ายเพียง 3 ล้านเครื่องในปี 2556 คิดเป็นสัดส่วนลดลงถึงร้อยละ 20 จากปี 2555
ยอดจำหน่ายพีซีในประเทศไทยในปี 2556 มีการหดตัวในระดับตัวเลขสองหลัก นับเป็นครั้งแรกในตลอดช่วงระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา โดยลดลงทั้งในส่วนของตลาดโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อปอย่างมาก
จากรายงานการสำรวจตลาดพีซีรายไตรมาสของไอดีซีเอเชียแปซิฟิก พบว่า ตลาดพีซีในประเทศไทยมียอดจำหน่ายเพียง 3 ล้านเครื่องในปี 2556 คิดเป็นสัดส่วนลดลงถึงร้อยละ 20 จากปี 2555
“จาริต สินธุ” นักวิเคราะห์อาวุโส ตลาดไคลเอนต์ดีไวซ์ประจำไอดีซีประเทศไทย บอกว่าสาเหตุความต้องการของตลาดพีซีหดตัวในปี 2556 นั้น เบื้องต้นเกิดจากการใช้งานแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น
ส่วนปีนี้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย หนี้ภาคครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น และความไม่สงบทางการเมืองที่ยังไม่จบ กำลังส่งผลลบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค บรรดาธุรกิจขนาดเล็กตัดสินใจที่จะกำหนดแนวทางในการป้องกันและชะลอการลง ทุนออกไปก่อน เนื่องจากการหดตัวลงของเศรษฐกิจภายในประเทศและธุรกิจส่งออก
ทำให้ไอดีซี คาดว่าตลาดพีซีของไทยในปี 2557 ยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี และจากข้อมูลการคาดการณ์ล่าสุดของไอดีซี ยอดจำหน่ายพีซีของประเทศไทยในปี 2557 คาดว่าจะลดลงร้อยละ 8
แม้ว่าตลาดจะปรับตัวได้จากผลกระทบทางการเมืองและเหตุการณ์ภัยพิบัติทาง ธรรมชาติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เมื่อมองภาพของตลาดพีซีในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 แล้ว แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเหตุดังกล่าวอีกต่อไป
ไอดีซี บอกอีกว่า สำหรับการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่แม้ว่าจะมีผลกระทบจากการยุบสภา แต่ยังถือว่าอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ
นอกจากนี้การใช้จ่ายของภาคธุรกิจขนาดใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจบริการทางการเงิน กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มการผลิต และกลุ่มโทรคมนาคม ที่ถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่มีการใช้จ่ายด้านไอทีค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการชะลอในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ไอดีซีคาดว่า จะยังคงมีความต้องการใช้งานพีซีที่แฝงอยู่จากทั้งในกลุ่มผู้บริโภครายย่อย และกลุ่มธุรกิจ เมื่อวิกฤติต่าง ๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ซึ่งคงต้องลุ้นกันต่อไป!!!.