ความพยายามในการหลีกเลี่ยงการจับกุมของขบวนการค้าสุนัขยังเกิดขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ทั้งนี้ด้วยวงเงินจำนวนมหาศาลในตลาดค้าขายเนื้อสุนัข จึงทำให้ขบวนการดังกล่าวพยายามปรับกลยุทธ์ เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหลากหลายรูปแบบ
ปัจจุบันไม่อาจปฏิเสธว่า เนื้อสุนัขยังคงเป็นที่นิยมของประชาชนบางจังหวัดในภาคอีสาน อีกทั้งยังทำเงินได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักจะเห็นภาพอันน่าเวทนาของ "เจ้าตูบหลายร้อยชีวิต" ถูกจับยัดเข้าไปในกรงขนาดใหญ่ในลักษณะมัดปาก ก่อนจะนำขึ้นรถกระบะขนผ่านเส้นทางต่างๆ ตามพื้นที่ตามใบสั่ง หรือแม้กระทั่งความพยายามในการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แม้ตลอดเวลาจะมีการปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่อง แค่ดูเหมือนว่า ธุรกิจค้าสุนัขยังไม่สามารถหมดไปแต่อย่างใด
เกี่ยวกับการปราบปรามจับกุมขบวนการค้าสุนัขในภาคอีสานเป็นหน้าที่โดยตรงของ ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการค้าสัตว์ข้ามชาติ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
และจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจดังกล่าวพบว่า เรื่องขบวนการค้าสุนัข ทางผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญถือเป็นระดับนโยบาย โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจดำเนินการปราบปรามอย่างเฉียบขาดทั้งการ สืบสวนหาข่าว การป้องกัน กดดัน ไล่ล่า ปราบปราม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าสุนัขข้ามชาตินั้น ทางเจ้าหน้าที่จับตาความเคลื่อนไหว ทำให้สามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มผู้ค้าประสบปัญหาขาดทุนต้องเลิกกิจการการค้าสุนัขไปแล้วจำนวน หนึ่ง
“พื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภาค 4 ที่มีขบวนการค้าสุนัขข้ามโขงในปัจจุบันแทบไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะการกดดัน เอาจริงกับผู้ค้า ไปพร้อมกับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ชักชวนให้ชาวบ้านที่พบเห็นการค้าสุนัขเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ทำให้การค้าทำได้ยากขึ้น ส่วนกลุ่มผู้ค้าสุนัขที่ยังชำแหละเนื้อสุนัขนั้น เจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้ติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นพบว่ามี 4 กลุ่ม ใน ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร ส่วนการปราบปรามให้หมดนั้น คงต้องใช้เวลา เนื่องจากกลุ่มผู้ค้าจะใช้วิธีต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม หรือในช่วงที่มีการจับกุมบ่อยครั้ง กลุ่มผู้ค้าจะหายไปสักพัก แต่ต่อมาก็จะกลับมาลักลอบค้าสุนัขอีก” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้การจับกุมจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ใช่ว่าขบวนการค้าสุนัขจะเข็ดหลาบ ปัจจุบันขบวนการดังกล่าวได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบในการปิดบังอำพราง เพื่อให้พ้นจากการจับกุมด้วยหลากหลายวิธี อาทิ ส่งสายเข้าไปติดตามการทำงานของตำรวจ ทำให้รู้การเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนเส้นทางขนส่งตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งการซุกซ่อนเนื้อสุนัขมาในถุงปุ๋ย ถังน้ำแข็ง รถขนแตงโม ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ทันสังเกต
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ผู้ติดตามขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กวาดล้างจับกุมสุนัขข้ามโขงอย่างหนัก
ทำให้กลุ่มผู้ค้าเริ่มหันมาทำโรงฟอกหนังสุนัข เพื่อแปรรูปเป็นข้าวของเครื่องใช้ และเครื่องประดับ โดยอุตสาหกรรมนี้เริ่มนิยมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่า ขบวนการฟอกหนังสุนัขจะใช้พื้นที่ห่างไกล 3 อำเภอ ใน จ.สกลนคร เป็นที่สร้างโรงฟอกหนัง คือ อ.เมือง อ.กุสุมาลย์ และ อ.โพนนาแก้ว
“กลุ่มผู้ค้าจะหาวิธีการใหม่เรื่อยๆ เพื่อให้รอดพ้นจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ ในส่วนของกลุ่มผู้ค้ายังเป็นกลุ่มเดิมใน จ.สกลนคร แต่เมื่อตำรวจเอาจริงคนกลุ่มนี้จะกระจายไปอยู่ตามจังหวัดต่างๆ เช่น กาฬสินธุ์ ยโสธร และมหาสารคาม จากนั้นจะชำแหละสุนัขแล้วส่งมาที่จุดใหญ่สกลนคร ซึ่งในจุดนี้กลุ่มผู้ค้าจะเป็นคนนำหนังสุนัขชำแหละไปขายให้แก่พ่อค้าที่โรง ฟอกหนัง ในราคาผืนละ 150-200 บาท เมื่อฟอกเสร็จพร้อมนำไปตัดเย็บจะมีราคาผืนละประมาณ 2,000 บาท แต่เมื่อส่งไปขายต่างประเทศจะมีราคาสูงขึ้นอีก จึงเป็นคำตอบว่าทำไมการค้าสุนัขยังไม่หมดไป”
กล่าวกันว่า “ซามิเซ็ง” เครื่องดนตรีของประเทศญี่ปุ่น ดั้งเดิมทำจากหนังงูในแผ่นดินใหญ่ แต่ปัจจุบันได้ใช้หนังแมวแทน แต่ขณะนี้เชื่อกันว่า หากใช้หนังหน้าท้องสุนัขและแมว จะทำให้เครื่องดนตรีมีเสียงกังวาล ไพเราะ และทำให้ราคาเครื่องดนตรีชนิดนี้ราคาสูงขึ้น ทำให้ตลาดค้าหนังสุนัขที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีผู้ค้านิยมส่ง ไปขาย นอกจากจะใช้หนังสุนัขทำซามิเซ็งแล้ว ดนตรีประเภทซอ กลอง ถุงมือกอล์ฟ กระเป๋าหนัง และขนมของกินเล่นของสุนัขล้วนทำมาจากหนังสุนัขทั้งสิ้น
ส่วนขั้นตอนการแปรรูปหนังสุนัขไม่ต่างจากการแปรรูปหนังสัตว์ชนิดอื่นๆ หลังจากที่กลุ่มผู้ค้าสุนัขขายหนังแล้ว
ทางโรงงานจะยำหนังสุนัขแปรรูปด้วยการนำไปหมักน้ำเกลือนาน 1 อาทิตย์ จากนั้นจึงนำไปขูดไขมัน ถอนขน ก่อนจะเข้าตู้อบไล่ไขมันออกจากหนัง เมื่อแช่น้ำยาฟอกขาวแล้ว จะนำไปขึงไม้ตากแดดให้แห้ง เพื่อให้หนังสุนัขบางเหมือนกระดาษ เมื่อเสร็จตามขั้นตอนก็จะนำไปตัดตามแบบให้ได้ขนาดกว้าง-ยาว 50 เซนติเมตร พร้อมนำส่งไปยังกลุ่มนายทุนที่รับซื้อ หรือส่งออกไปยังต่างประเทศเพื่อผลิตเป็นสินค้าต่างๆ
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ทราบว่าขบวนการค้าสุนัขในประเทศไทยกำลังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยผลประโยชน์
และจำนวนเงินมหาศาลเป็นสิ่งล่อตาล่อใจให้พวกเขากระทำผิดโดยไม่คำนึงถึงคำว่า มนุษยธรรมต่อเพื่อนร่วมโลก ซึ่งกลุ่มผู้กระทำผิดเหล่านี้พร้อมที่จะก้าวข้ามเส้นแบ่งของความดีงามอย่าง ไม่แยแส และ สิ่งสำคัญที่จะมาสั่งสอนให้ขบวนการดังกล่าวหมดไปคงต้องพึ่งการปราบปราม และบทลงโทษตามกฎหมายที่ต้องเฉียบขาด และหนักหน่วงเช่นกัน
............................
(หมายเหตุ : ชำแหละขบวนการค้าสุนัข อาหารจานด่วนซุกรถแตงโมเสิร์ฟถึงบ้าน : กวินทรา ใจซื่อรายงาน)
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
