เจ้าของช้าง “พังแตงโม” ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 2.8 ล้าน หลังถูก“กรมอุทยาน-ก.ทรัพย์” ยึดช้างโดยมิชอบทำให้เจ็บป่วยและล้มตาย ศาลนัดชี้สองสถาน 19 พ.ค.นี้
เจ้าของ “พังแตงโม” ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 2.8 ล้าน หลังกรมอุทยานฯ ทำช้างตาย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เจ้าของ “พังแตงโม” ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 2.8 ล้าน หลังกรมอุทยานฯ ทำช้างตาย
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นายเนติวินท์ อมรสิน เจ้าของช้างพังแตงโม พร้อมด้วย ร.ต.ต.สุรศิษฏ์ เหลืองอรัญนภา ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เป็นจำเลยที่ 1-2 ต่อศาลแพ่ง ในความผิดฐานละเมิด
พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2.8 ล้านบาท จากกรณีกรมอุทยานฯ ได้ยึดช้างพังแตงโมไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทำให้ช้างพังแตงโมป่วย และล้มตายลง ขณะอยู่ในความดูแลของจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา
นายเนติวินท์ กล่าวว่า ตนซื้อช้างพังแตงโมมาเมื่อปี 2553 ในราคา 7.9 แสนบาท ซึ่งขณะนั้นช้างมีอายุประมาณ 2 ปี โดยตนนำมาฝึกฝนเพื่อเตรียมนำไปแสดงในศูนย์คชอณาจักร ที่ จ.สุรินทร์ เพื่อจะใช้เป็นอาชีพในการหาเลี้ยงครอบครัว
แต่ยังไม่ทันจะได้ไปแสดงก็ถูกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบ และกล่าวหาว่าช้างของตนเป็นช้างป่า ทั้งที่มีตั๋วรูปพรรณช้างตาม พ.ร.บ.สัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 โดยเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2556 นายดำรง พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้มายึดช้างพังแตงโมไปไว้ที่สถาบันคชบาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งการเคลื่อนย้ายช้างไม่ถูกต้องตามวิธีการ และไม่ดูแลรักษาช้างตามหลักสวัสดิภาพของสัตว์
จากนั้นตนได้ต่อสู้เพื่อยืนยันว่าช้างพังแตงโมไม่ใช่ช้างป่า และมีตั๋วรูปพรรณถูกต้องโดยขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย และคดีต่อสภาทนายความ ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งถึงที่สุดไม่ฟ้องคดี และมีคำสั่งให้กรมอุทยานฯ คืนช้างพังแตงโมแก่เจ้าของ แต่ตนก็ยังไม่ทันได้ช้างพังแตงโมคืน เพราะระหว่างนั้นยังอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานฯ กระทั่งเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2556 ช้างพังแตงโมได้ล้มป่วยลง มีแผลที่หลังและบั้นเอวจนเดินไม่ได้ และล้มตายลงอย่างผิดธรรมชาติ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2556 แพทย์ระบุว่ากระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ซึ่งขณะนั้นช้างพังแตงโมงมีอายุ 4 ปี 8เดือน เรื่องดังกล่าวถือว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายเนติวินท์กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นตนได้ร้องเรียนไปยังกรมอุทยานฯ หลายครั้ง และร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาล 2 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่กลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าต้องดำเนินการตามขั้นตอน และรอตรวจสอบราคาช้างทำให้คดีไม่คืบหน้าจนถึงปัจจุบันกระทั่งเรื่องเงียบหายไป ซึ่งไม่เคยมีการเยียวยาค่าเสียหายแต่อย่างใด
ตนจึงได้ประสานไปยังสภาทนายความเพื่อขอความช่วยเหลือด้านคดีความเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย จึงได้มายื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายตามราคาช้าง เป็นเงิน 2.8 ล้านบาท เพื่อต้องการนำเงินไปซื้อช้างเชือกใหม่ ส่วนการฟ้องในคดีอาญานั้นคงจะปรึกษากับทนายความอีกครั้ง
“พังแตงโมถือเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว เพราะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ถึงจะได้ช้างตัวใหม่มาก็ไม่เหมือนตัวเดิมที่ตายไป ซึ่งกรมอุทยานฯ บ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบทุกอย่าง แม้แต่คำขอโทษสักคำก็ไม่เคยมี ผมเชื่อว่าสาเหตุที่พังแตงโมตายมาจากเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ดี ไม่รู้ว่าให้อดข้าวอดน้ำหรือเปล่า
นอกจากนี้ ผมทราบจากชาวบ้านว่ายังมีช้างอีกหลายเชือกที่ถูกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ตรวจยึดไปและมีอาการป่วยจนล้มตาย แต่เจ้าของช้างเขาไม่อยากมีเรื่องมีราวจึงไม่ได้มาฟ้องคดีอย่างผม ซึ่งคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกของประเทศที่เจ้าของช้างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อกรมอุทยานฯ เจ้าของช้างพังแตงโม กล่าว ซึ่งศาลแพ่งชี้สองสถาน หรือนัดตรวจสอบพยานหลักฐานของคู่ความ วันที่ 19 พ.ค.นี้