ให้การระบุ โดนโจรกรรมหนังสือเดินทาง เมื่อปี 2556 และเมื่อได้เล่มใหม่ ก็เข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม
เมื่อเวลาประมาณ 15.50 น.วันที่ 9 มีนาคม พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แก้ววาที พ.ต.อ.อารยะพันธ์ พุกกะบัวขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและตำรวจภูธรกะทู้ ร่วมกันสอบปากคำนายมาราลดี้ ลุยจิ (Maraldi Luigi) นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี อายุ 37 ปี หลังจากที่ชุดสืบสวนประสานงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยวสืบทราบแน่ชัดว่า นักท่องเที่ยวรายนี้ อยู่ ในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต แน่นอน โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรกะทู้ ไปเชิญตัวมาจากคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ป่าตอง เนื่องจาก ในข่าวที่ปรากฏทางสื่อสารมวลชนไปทั่วโลก รายงานจากสายการบินระบุว่า นายมาราลดี้ ลุยจิ เป็นผู้โดยสารชาวอิตาลี เสียชีวิตรวมไปด้วยในอุบัติเหตุ สายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส์ เที่ยวบิน MH 370 เมื่อเช้ามืดวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8กล่าวว่า พล.อ.ต.อ. อดุล แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายสั่งการให้ติดตามตัว นักท่องเที่ยวรายนี้ให้ได้
และล่าสุด ตำรวจภูธรกะทู้ สามารถนำตัว นายมาราลดี้ ลุยจิ นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี มาพบ และได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเป็นกรณีเชื่อมโยงระหว่างประเทศหรือนานาชาติ โดย นักท่องเที่ยวรายนี้ ให้ข้อมูล ด้วยดี และถือว่า เขาเป็นนักท่องเที่ยวที่โชคดี เนื่องจาก เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ว่า หนังสือเดินทางของเขาสูญหายหรือคนร้ายโจรกรรมไป ในระหว่างที่ เขา ใช้เป็นหลักฐาน ไปเช่ารถ ที่บริษัท บริการรถเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลป่าตอง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม หลังจากนั้น เอาเอกสารการแจ้งความ ไปยื่นต่อกงสุลอิตาลีประจำภูเก็ต เพื่อออกเอกสารหนังสือเดินทางชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศอิตาลีหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ได้ยื่นขอจัดทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่ และพึ่งได้รับมาใช้เมื่อประมาณ 2 เดือนเศษที่ผ่านมานี่เอง
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8กล่าวด้วยว่า เนื่องจากปัญหาอุบัติเหตุเครื่องบินตกในครั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวผู้เกี่ยวข้อง ที่ถูกพาดพิง 2 คน
ที่เคยใช้ชีวิตท่องเที่ยวในภูเก็ต คือ นอกจากมีนายมาราลดี้ ลุยจิ นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีแล้วยังมีนายคริสเตียน โคเซลอายุ30 ปี ชาวออสเตรีย ที่มีรายชื่อเป็นผู้โดยสารชาวออสเตรียคนเดียวบนเที่ยวบินเดียวกัน และยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัยดีในประเทศออสเตรียและคนร้ายโจรกรรมหนังสือเดินทางไปเมื่อประมาณ 18เดือนที่แล้ว ในขณะที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลัง ตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความเอกสารสำคัญหาย จากสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ทุกแห่งอย่างเร่งด่วนแล้ว และทราบเพียงแต่ว่า เมื่อ หนังสือเดินทาง นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียหายไป เขาได้ ติดต่อกงสุลออสเตรีย ประจำภูเก็ต เพื่อทำเอกสารรับรองและส่งตัวกลับ ประเทศ ในเวลาต่อมา ยกเว้นกรณีของนายมาราลดี้ ลุยจิ นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี นี้ ปรากฏว่า เป็นนักท่องเที่ยวที่ ชื่นชอบและรักจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย เป็นอย่างมาก เมื่อได้หนังสือเดินทางใหม่ เขาได้เดินทางกลับมาเที่ยวอีก แต่ กลับมีข่าวร้ายกับชื่อ แต่ ถือว่า เจ้าตัวเป็นบุคคลที่โชคดี ที่ไม่ได้เสียชีวิตจริง ตามที่เป็นข่าวของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส
อย่างไรก็ดี ตนได้มอบหมายสั่งการให้ชุดสืบสวน รับผิดชอบ หาข้อมูลเพิ่ม ทั้ง ในรายชาวอิตาลีและชาวออสเตรีย
โดยเฉพาะประเด็นมิจฉาชีพโจรกรรมหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ในเกาะภูเก็ต ว่า จะมีการเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาเครื่องบินตกหรือไม่อย่างไร ควบคู่ไปกับ ให้ตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แลกเปลี่ยนประสานงานข้อมูล กับ Interpolหรือ ตำรวจสากล และ ตำรวจหรือทางการมาเลเซียอย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน เพื่อทราบ ขั้นตอน ของการใช้หนังสือเดินทางที่โจรกรรมไปจากนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี ที่ จังหวัดภูเก็ตประเทศไทย นอกจากนี้ อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า กรณี ที่ นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี แจ้งว่า คนร้ายโจรกรรมหนังสือเดินทางของเขาไป ในทางปฏิบัติของตรวจคนเข้าเมืองคือ Code ประจำหนังสือเดินทางเล่มนั้น ด่านตรวจทุกช่องทางของประเทศไทย ไม่สามารถใช้การได้อีก แต่ ก็เป็นไปได้ ขบวนการมิจฉาชีพ อาจจะนำไปใช้ โดยการถ่ายภาพ เอาไปปิดทับลงใหม่ และ สามารถใช้ได้ ในต่างประเทศ
ทางด้านนายมาราลดี้ ลุยจิ นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีกล่าวด้วยรอยยิ้มและเสียหัวเราะว่า ยินดีให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย
เพื่อให้ข้อมูลส่วนตัว ทุกด้าน และมีความบริสุทธิ์ใจ ที่พบปะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะ ขณะที่พบกับเจ้าหน้าที่ นั้น ตนเอง สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าแตะ และกำลัง จะออกจากที่พักคอนโดมีเนียม ไปพักผ่อนที่บริเวณชายหาดป่าตองพอดี และถือว่าเป็นคนที่โชคดี เหมือนกับ ตายแล้วเกิดใหม่ เพราะ ไม่ได้ โดยสารไปกับ สายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส ลำเกิดเหตุจริงๆ สำหรับ ตนเอง เมื่อไปติดต่อเจ้าหน้าที่ทางการอิตาลี เพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และเมื่อได้รับแล้ว ได้ยื่นขอวีซ่า เพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย และเข้ามาในไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมานี่เอง และกำหนดจะอยู่พักผ่อน อยู่ ในภูเก็ต ประเทศไทย นานรวม 30 วัน
นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีกล่าวด้วยว่าเมื่อวานนี้(8) มีเพื่อนที่พักอยู่ที่หาดกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต โทรศัพท์ติดต่อมาเป็นคนแรก
และยืนยันกลับไปว่า ยัง มีชีวิต มีความสุข ในการพักผ่อน ที่จังหวัดภูเก็ต และ การติดต่อสื่อสารต่างๆ ทุกรูปแบบ โทรศัพท์ เอสเอ็มเอส อีเมล เฟซบุ๊ค มาสู๋ตนเอง นั้น เข้ามาจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ มีผู้ที่รู้จัก ติดต่อสอบถาม เข้ามา เป็นระยะๆ ด้วย
ข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และชุดสืบสวนตำรวจภูธรกะทู้ ร่วมกัน ติดตามข้อมูลในเชิงลึก
โดยเฉพาะแก๊งมิจฉาชีพข้ามชาติ ที่ฉวยโอกาสโจรกรรมหนังสือดินทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ คือ จะเริ่มต้น จากการตรวจสอบ ที่บริษัทให้บริการเช่ารถยนต์ ที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ที่ นาย มาราลดี้ ลุยจิ นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี เช่า และ มีคนร้ายโจรกรรมหนังสือเดินทางไป โดยนำตัว เขาไปสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด ที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ รวมทั้ง การตรวจสอบข้อมูล ย้อนหลังไป เมื่อ 18 เดือน ที่ผ่านมา เพื่อทราบข้อมูล เกี่ยวกับกรณี คนร้ายโจรกรรมหนังสือเดินทางของ นาย นายคริสเตียน โคเซล นักท่องเที่ยวชาวออสเตรีย อีกส่วนหนึ่ง
ตำรวจภูเก็ต พบตัว มาราลดี ลุยจิ ชาวอิตาลี ที่มีชื่อบนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ตำรวจภูเก็ต พบตัว มาราลดี ลุยจิ ชาวอิตาลี ที่มีชื่อบนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์