ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 6 มีนาคม นายชูวิทย์ กมลวิศิาฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย
ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ I′m No.5" ระบุข้อความถึงกรณี นายสาธิต เซกัล นักธุรกิจสีลม สัญชาติอินเดีย กรณีถูกเนรเทศออกจากประเทศไทย และนางทยา ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. ที่ครอบครัวได้รับผลกระทบจากทางการเมือง
โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
คุ้มหรือไม่?
ไม่น่าแปลกใจอะไร คุณสาธิต เซกัล ไม่ได้มีสัญชาติไทย การถูกเนรเทศจึงเป็นสิทธิของรัฐบาลโดยไม่จำเป็นต้องเรียกไปชี้แจง เพราะถึอเป็น "คนต่างด้าว" ต้อง "สำเหนียก" สถานะของตัวเอง ไม่สามารถทำอะไรเหมือนกับพลเมืองของประเทศนั้นๆ เป็นกฎสากลของทุกประเทศในโลก และยิ่งรุนแรงขึ้นเสียด้วยซ้ำสำหรับประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา หรืออังกฤษ เพราะเขาคำนึงถึง "ความมั่นคงของรัฐ" มากกว่า "มนุษยธรรม"
เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า คนต่างด้าวที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคง ย่อมโดนผลกระทบรุนแรงมากกว่าคนท้องถิ่น คุณสาธิตอาจได้รับคำชมเชยจากคุณสุเทพ หรือแกนนำม็อบ มีคนขอถ่ายรูปด้วยราวกับ "วีรบุรุษ" แล้วยังไง? หลังจากนั้นคุณสาธิตจะต้องเอาสถานะของตัวเองและครอบครัวมาเสี่ยง
ผมเคารพสิ่งที่คุณสาธิตทำ แต่เหมือนอย่างที่คนไทยหลายคนพูด "มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคนอื่น มันเป็นเรื่องของคนในประเทศ" เวลาผัวเมียทะเลาะกันแล้วมีคนเข้าไปสอด มักโดนตอกกลับว่า "ยุ่งอะไรกับครอบครัวคนอื่นเขา?”
กรณีคุณทยา ทีปสุวรรณ (ศรีวิกรม์) เช่นกัน สิ่งที่คุณทยาทำอาจถูกใจม็อบ ดูแล้วกล้าหาญ
แต่อีกไม่กี่วันคนเขาก็ลืม คนที่ต้องรับผลกระทบจากสิ่งที่คุณทยาทำกลายเป็นคุณแม่ของตัวเอง เพียงแค่ไปเป่านกหวีด กลับได้รับ M-16 ตอบแทน มันรุนแรงและไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย มีวิธีการอื่นๆอีกมากมายที่จะทำเพื่อบ้านเมือง โดยไม่จำเป็นต้องทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง เอาอารมณ์ไปแลกกับกระสุน ได้โชว์คลิปลงยูทูบ แต่ผลย้อนกลับ ทำให้แม่ตัวเองต้องเสี่ยงอันตราย
ผมเห็นป้ายที่มักติดไว้ตรงสระว่ายน้ำตามโรงแรม เขาเขียนบอกว่า "Take your own risk” มีความหมายว่า "รับผิดชอบดูแลตัวเอง" หรือพูดง่ายๆ "เสี่ยงเอาเอง ไม่มีใครช่วย"
อย่าให้คำว่า "รักชาติ" ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองและครอบครัวเลย