จากกรณีที่สังคมออนไลน์มีการเผยแพร่คลิประหว่างรถพ่วง18 ล้อที่ขับแข่งกับรถกระบะบนถนนสายหนึ่งโดยมีการขับปาดกันอย่างน่าหวาดเสียวก่อนที่รถพ่วงจะขับเบียดรถกระบะคันคู่กรณีตกถนนแล้วหลบหนีไป ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อวันที่ 23ก.พ. พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง(ผบก.ทล.)เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบทราบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในต.นาโคกจ.สมุทรสาครท้องที่ของ สภ.บางโทรัด โดยรถทั้งสองคันได้มีการขับแข่งและปาดหน้ากันมาตามถนนพระราม2 ขาออกตั้งแต่ช่วงหลัก กม.ที่45+500เป็นระยะทางกว่า6 กม.ก่อนที่รถกระบะจะถูกรถพ่วงปาดจนเสียหลักตกถนนที่บริเวณหลักกม.ที่51+600ทั้งนี้พบว่าผู้ขับขี่รถกระบะยังไม่ได้เดินทางเข้าแจ้งความมีเพียงแค่ติดต่อประสานขอรถยกจากบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งให้มาช่วยเหลือและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงกล่าวอีกว่าอย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเร่งตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดโดยจะต้องมีการเชิญตัวผู้ขับขี่รถกระบะมาสอบปากคำว่าสามารถจดจำทะเบียนของรถพ่วงคันคู่กรณีได้หรือไม่หรืออาจจะต้องเชิญตัวผู้ที่ถ่ายคลิปดังกล่าวมาให้ปากคำในฐานะพยานอีกทางหนึ่งด้วยนอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทางหลวงช่วยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่เกิดเหตุเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบคดีอย่างไรก็ดีในส่วนของมาตรการป้องกันที่ผ่านมาก็ได้สั่งการให้มีการจัดเจ้าหน้าที่ประจำตามจุดตรวจต่างๆเป็นระยะรวมทั้งให้กวดขันไม่ให้รถบรรทุกมีการวิ่งในเลนขวาและห้ามขับขี่เกินความเร็วที่70 กม./ชม.สำหรับรถพ่วงในคลิปนั้นทำผิดทั้ง2 กรณีจึงจะต้องมีการดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคลิปวีดีโอนี้กลุ่มนักท่องโลกไซเบอร์ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวางถึงความอหังการของรถพ่วงและไม่มั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินในระหว่างเดินทางสัญจรบนท้องถนนเนื่องจากทุกท้องถนนรถบรรทุก10 ล้อหรือรถพ่วงจะขับหวาดเสียวและทำตัวเป็นจ้าวถนนอยู่เป็นประจำจึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามและหามาตรการแก้ไขอย่างเฉียบขาด.