จัดไกล่เกลี่ยพวกเบี้ยวเงินกู้เรียน

ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายวรณัฏฐ์ สังข์ใหม่ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ และ นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้เงินเพื่อการศึกษา ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จะจัดให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในกรุงเทพฯ ขึ้นระหว่างวันที่ 30 มี.ค-1 เม.ย นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 704 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ชั้น 7 โดยนายเปรมประชา กล่าวว่า การระงับข้อพิพาทเป็นการให้โอกาสนักศึกษาผู้กู้เงินกองทุนอีกครั้ง จริงๆ แล้วไม่อยากจะฟ้องร้อง เพราะเป็นภาระทั้ง กยศ. ศาล และผู้กู้ยืม

ที่ผ่านมาจำเป็นต้องฟ้องคดีเพราะผู้กู้ยืมที่ขาดการติดต่อเพื่อชำระหนี้คืนให้ กยศ.นานใกล้ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคดีจะหมดอายุความ 5 ปี จำเป็นต้องฟ้องเพื่อบังคับคดีและให้คดีมีอายุความต่อไป ขณะนี้มีผู้กู้ยืมที่เข้าข่ายถูกฟ้องคดีในเดือน มิ.ย. ประมาณ 39,000 ราย แต่มีการไกล่เกลี่ยฯ สำเร็จไปแล้ว 1,043 ราย ทุนทรัพย์ 58 ล้านบาทเศษ และในการจัดงานไกล่เกลี่ยครั้งนี้คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 500 ราย จึงเหลือผู้ที่จะต้องถูกฟ้องคดีอีก 37,000 ราย มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท จึงอยากให้ผู้กู้ยืม กยศ.ทั่วประเทศ ติดต่อเข้าร่วมไกล่เกลี่ยฯ เพื่อไม่ต้องถูกฟ้องคดีเป็นจำเลยต่อศาล นอกจากนี้ หากผู้เข้าไกล่เกลี่ยนำเงินกู้ยืมมาชำระทั้งหมดมีสิทธิชิงเงินรางวัล 3 แสนบาทด้วย

นายวรณัฏฐ์ กล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยผู้กู้ยืมจะได้ประโยชน์ คือ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าไม่เข้าร่วมจะถูกฟ้องคดีและต้องจ่ายค่าทนายความและค่าดำเนินการต่างๆ เองหลายพันบาท โดยการไกล่เกลี่ยฯ ลูกหนี้สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง ทำให้ได้รับความพึงพอใจในเงื่อนไขข้อตกลง ตลอดจนชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน และสาเหตุที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ และมีโอกาสผ่อนผันชำระหนี้ ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ จะมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความหยุดคิดเบี้ยปรับ ทำให้ลูกหนี้มีประวัติทางการเงินที่ดี มีผลต่อการทำงานหรือตำแหน่งหน้าที่ ไม่ถูกฟ้องหรือดำเนินคดีต่อไป.