เอเอฟพีได้รายงานข่าวมุมมองเกี่ยวกับบทบาทของหลวงปู่ พุทธะอิสระ หนึ่งในผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยระบุว่า บทบาทของหลวงปู่รูปนี้กำลังทดสอบหลักต้องห้ามของวงการพระสงฆ์ไทย ที่ถือว่ากรณีพระยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และไม่ใช่กิจของสงฆ์ เอเอฟพีระบุว่า นับตั้งแต่การประท้วงของ กปปส.ปะทุผ่านมา 3 เดือน หลวงปู่พุทธะอิสระได้กลายเป็นบุคคลสำคัญในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลยิ่ง ลักษณ์ ด้วยการจัดการสวดมนต์และกล่าวปราศรัยต่อต้านโจมตีรัฐบาล โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คอยยืนอยู่ข้างหลังเพื่อแสดงการเคารพของพระสงฆ์รูปนี้ และท่านยังดำเนินบทบาทเป็นแกนนำปราศรัยเองด้วยในหลายเวทีของกลุ่ม กปปส. ที่ต้องการขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่ง และให้ตระกูลชินวัตร พ้นจากบทบาทการเมืองของไทย โดยครั้งหนึ่ง ท่านกล่าวว่า รัฐบาลที่นำโดยครอบครัวชินวัตรทั้งพี่และน้อง ต่างไร้จริยธรรมและศีลธรรม ก่อเหตุคอร์รัปชั่นและปล่อยให้เกิดการคอร์รัปชั่นทุกวัน โกหกหลอกลวงทุกวัน และว่า หลักศาสนามีหน้าที่จะต้องสอนสิ่งเหมาะสมหรือสิ่งใดไม่ควรทำ ให้ประชาชนหรือเหล่าฆราวาสปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวไม่ได้สร้างความพอใจให้แก่ทุกคนในสังคมไทย โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์เอเอฟพี ว่าพระไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่หลวงปู่พุทธะอิสระไม่ยอมยุติพฤติกรรมของท่าน และว่า ที่ผ่านมาสำนักฯได้รับการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยพระสงฆ์อาจมีความรู้ส่วนตัวเกี่ยวกับมุมมองทางการเมืองได้ แต่ห้ามไปแสดงออกทางการเมืองตามกฎของสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และการกระทำของหลวงปู่พุทธะอิสระ ถือว่าได้ทำลายภาพลักษณ์ของพุทธศาสนาในเมืองไทย ขณะที่เอเอฟพีรายงานว่า สำหรับเมืองไทย ประชากรส่วนใหญ่ 95 เปอร์เซ็นต์นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นเมืองพุทธใหญ่สุดแห่งหนึ่งของโลก และชาวพุทธจำนวนมากเชื่อว่า พระสงฆ์ไม่ควรฝักใฝ่ ยุ่งเกี่ยว หรือเลือกข้างทางการเมือง