ฮือฮา.! ผช.ผญบ. ชกชิงนาง เดิมพันม่ายวัย 52

ผช.ผญบ.ทำฮือฮา ชกชิงนาง เดิมพันม่ายวัย 52


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 6 เม.ย. ที่สนามมวยชั่วคราว หัวแหลม ปากคลองแกลง ต.แกลง อ.เมืองระยอง นายทรงศักดิ์ ชั่งทอง กำนันตำบลแกลง ได้เป็นประธานจัดมวยรายการวันรวมน้ำใจมหากุศล เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมประจำท้องถิ่น ในงานจัดให้มีการแข่งขันชกมวยไทยรวมทั้งสิ้น 11 คู่ โดยมีนายสุนทร รัตนวราหะ รอง ผวจ.ระยอง พล.ท.อัครชัย จันทรโตษะ เลขาธิการสหพันธ์มวยไทยโลก เดินทางมาเป็นสักขีพยาน

การแข่งขันดำเนินไปอย่างราบรื่น มีชาวแกลงและพื้นที่ใกล้เคียงนับพันคนมาร่วมชมและเชียร์อย่างสนุกสนาน กระทั่งเวลา 00.15 น. วันที่ 7 เม.ย. เวลาที่ ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อโฆษกสนามได้ประกาศมวยคู่พิเศษ ระหว่างนักมวยฝ่ายแดง "สมยศ ลูกหมู่ 4" ขึ้นสังเวียนฟาดปากกับ "สมชาย ลูกหมู่ 3" นักมวยฝ่ายน้ำเงิน ในพิกัดน้ำหนัก 64 กก. กำหนด 4 ยก โดยมวยคู่นี้จะชิงเดิมพันแปลกประหลาดไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ผู้ชนะจะได้ตัวหญิงที่ตนรักไปครอบครอง


สำหรับนักมวยทั้งคู่ต่างเป็นนักมวยสมัครเล่น


โดย สมยศ ลูกหมู่ 4 ฝ่ายแดงมีชื่อจริงว่านายสมยศ หิรัญมาศ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155/3 หมู่ 4 ต.แกลง อ.เมืองระยอง มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.แกลง อาชีพ รับเหมาก่อสร้างและค้าขาย

ส่วนสมชาย ลูกหมู่ 3 ฝ่ายน้ำเงิน มีชื่อจริงว่านายสมชาย เวชสัมฤทธิ์ อายุ 39 ปี เท่ากัน อยู่บ้านเลขที่ 81/6 หมู่ 3 ต.แกลง อ.เมืองระยอง อาชีพทำสวนทำไร่ และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.แกลง เช่นกัน

ทันทีที่นักมวยทั้งสองฝ่ายขึ้นเวที พี่เลี้ยงและกองเชียร์ของทั้งคู่ ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่ 3 และหมู่ 4 ที่ ขนสมัครพรรคพวกมากันหมู่บ้านละหลายร้อยคน ต่างปรบมือโห่ร้องส่งเสียงเชียร์กันกระหึ่ม และเมื่อกรรมการสับมือเป็นสัญญาณให้นักมวยชกกันได้ นักมวยทั้งคู่ที่อยู่ในอาการคึกคักสุดขีดก็ปรี่เข้าหากันด้วยสีหน้าท่าทางเอาจริง ต่างฝ่ายต่างวาดลวดลายแม่ไม้มวยไทยเข้าใส่กันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันไม่แพ้นักมวยอาชีพ

แต่ลีลาของทั้งคู่ก็ยังออกท่าทางเก้ๆกังๆ ชกลมวืดวาดเข้าใส่กันจนต่างมีอาการเหนื่อยหอบ ต้องหยุดพักหายใจเป็นระยะๆ ทำให้เรียกเสียงหัวเราะครื้นเครงจากบรรดากองเชียร์ที่บรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรภาพ กระทั่งระฆังหมดยกที่ 4 ดังขึ้น นักมวยทั้งสองได้โผเข้ากอดกันและยกมือไหว้ขอโทษขอโพย ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง หลังการชกเสร็จสิ้นปรากฏว่า สมยศ ลูกหมู่ 4 นักมวยฝ่ายแดง ได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะคะแนนในที่สุด

หลังจากนักมวยทั้งคู่เดินลงเวที ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องราวที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องมาฟาดปากกันบนเวทีมวยครั้งนี้ ปรากฏว่านักมวยทั้งสองฝ่ายต่างรู้สึกเขินที่จะตอบคำถาม กระทั่งมีหญิงสาวนางหนึ่งทราบชื่อนางแพรว นิตยลาพ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 5 ต.แกลง อ.เมืองระยอง ปรี่เข้ามาชูมือให้สมยศ ลูกหมู่ 4 พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนคือรางวัลสำหรับผู้ชนะในศึกครั้งนี้


นางแพรว หญิงสาวที่เป็นต้นเหตุให้หนุ่ม 2 หมู่บ้านต้องเปิดศึกชิงนางกันขึ้น


เปิดเผยด้วยรอยยิ้มว่า มีอาชีพค้าขาย ทำไร่ทำสวน ก่อนหน้านี้เคยแต่งงานมีสามีแล้ว แต่ภายหลังตกพุ่มม่ายมานานกว่า 4 ปี กระทั่งได้รู้จักกับนายสมยศ และนายสมชาย ในเวลาไล่เลี่ยกัน รู้สึกชอบพอนิสัยใจคอของทั้งคู่จนเลือกไม่ถูกว่าคนไหนดีกว่ากัน อีกทั้งต่างก็เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนละหมู่บ้าน เวลาที่ทั้งคู่ออกตรวจพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 4

ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อเสร็จงานก็จะแวะมาจีบตนที่อยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ทุกครั้ง ซึ่งตนก็พูดคุยด้วยกับทั้งคู่ แต่ความจริงก็มีใจ เอนเอียงมาทางนายสมยศมากกว่า ขณะที่นายสมชายก็ เป็นคนดีทำให้เลือกไม่ถูก จึงต้องตัดสินด้วยการชกมวย วันนี้ยอมรับว่าเชียร์นายสมยศอยู่ในใจและสมใจตามที่ได้ตกลงกันไว้ว่าผู้ชนะมีสิทธิ์ในตัวตน แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็ยังเป็นเพื่อนกัน และไม่อยากให้มีการแก้มือกลัวจะเจ็บทั้งคู่

นายสมยศ หิรัญมาศ หรือสมยศ ลูกหมู่ 4 นักมวยผู้ชนะ ได้ทั้งตัวและหัวใจของแม่ม่ายพราวเสน่ห์ไปครอบครองกล่าวว่า ตนและนายสมชายปกติก็ชอบพอและทำงานด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ต้องมาผิดใจกันเพราะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ตนคิดแล้วไม่อยากให้ปัญหายืดเยื้อ พอรู้ว่าจะมีมวยการกุศล จึงเอ่ยปากท้านายสมชายมาชกกันเพื่อตัดสินให้รู้ดำรู้แดง ทั้งที่ตนไม่เคยชกมวยมาก่อน ใช้เวลาฝึกฝนราว 8 วัน ชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้ถือว่าจริงจังอะไร คิดว่าเป็นการใช้กีฬามาตัดสินปัญหาอย่างสันติมากกว่า

ด้านนายสมชาย เวชสัมฤทธิ์ หรือสมชาย ลูกหมู่ 3 นักมวยผู้ปราชัยกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันนี้ชกในพิกัด 64 กก. ทำให้ต้องแบกน้ำหนักของนายสมยศที่หนัก 69 กก. ตนมีเวลาซ้อมน้อยและพยายามชกอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เมื่อนายสมยศชนะก็ยอมรับ และยินดียกหญิงสาวให้ไปครอบครองตามที่ตกลงกันไว้ การชกวันนี้ไม่ได้คิดอะไรมาก เป็นการชกเพื่อการกุศล ถือว่าได้อิ่มบุญก็พอใจ และไม่แก้มืออย่างเด็ดขาด


นายเชิดชาย หุตะเสวี เจ้าของราชาบ๊อกซิ่งอุปกรณ์กีฬามวยกล่าวว่า


ปกติตนดูมวยเป็นประจำอยู่แล้ว เป็นการชกอาชีพธรรมดา แต่เมื่อทราบว่าจะมีมวยประวัติศาสตร์ศึกชิงนางเป็นของแปลกไม่เคยเห็นมาก่อนจึงได้มาดู เป็นเรื่องจริงที่เขาหาทางออกที่ถูกแล้ว เขาก็จะรักกัน สามัคคีกันมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องสาวก็คงแบ่งสันตามที่ตกลงกันเองว่าผู้ชนะเป็นของใคร

นายทรงศักดิ์ ชั่งทอง กำนันตำบลแกลง ผู้จัดการแข่งขันชกมวยนัดประวัติศาสตร์กล่าวว่า รายได้จากการจัดเก็บบัตรเข้าชมมวยการกุศลครั้งนี้ สามารถเก็บได้กว่า 2 แสนบาท โดยเฉพาะมวยคู่พิเศษที่มีเดิมพันเป็นม่ายสาวดังกล่าว สร้างความสนอกสนใจเรียกคนดูเข้าชมได้อย่างคับคั่ง ทำให้มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนสร้างศาลเจ้าแม่กวนอิมถึง 1 แสนบาท

ต้องขอขอบคุณนักมวยคู่ประวัติศาสตร์ศึกชิงนางทั้งสองเป็นอย่างมาก เพราะทั้งคู่เป็นคนกล้า ใช้ความเป็นลูกผู้ชายตัดสินปัญหาอย่างสันติวิธี

โดยต่างก็เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ขยันขันแข็งและไม่ขอรับค่าตัวในการชกแต่อย่างใด



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์