จนท.ประมงตรวจซากโลมาหัวบากเกยตื้น

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.เวลา 09.30น.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสมชาย ฉลาดแฉลม สมาชิกองค์การบริหารตำบลเสาเภา อำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีปลาโลมาเกยตื้น ที่บริเวณหาดเสาเภา ม.2 ต.เสาเภา อ.สิชล ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2556 และได้ประสานไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองจ.สงขลาเพื่อให้มาตรวจสอบซากปลาโลมาตัวดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ติดภารกิจและตรงกับช่วงเทศกาลปีใหม่ นายสมชายจึงนำซากปลาโลมาหัวบากตัวดังกล่าวห่อด้วยถุงพลาสติก และฝั่งไว้บริเวณริมหาดเสาเภา

นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้มีเดินทางมาตรวจสอบซากปลาโลมา ทราบว่าเป็นปลาโลมาหัวบากสภาพพองอืด เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 30กิโลกรัม ความยาวประมาณ 1 เมตร ซึ่งเป็นขนาดโตเต็มที่ของปลาโลมาชนิดนี้ บริเวณลำตัวพบมีรอยถูกของแหลมแทงจำนวน2 รูบริเวณคลีปหางมีรอยแหว่ง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถผ่าชันสูตรได้ว่าปลาโลมาเสียชีวิตเพราะสาเหตุใดเพราะสภาพเน่าเหม็น พองอืด หนอนยั๊วเยี้ยะ เพราะตายมาแล้วประมาณ 10 วัน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันฝังกลบซากปลาโลมาบริเวณริมหาดเสาเภา จากการสอบถามชาวบ้านละแวกนั้นทราบว่าปลาโลมาหัวบาก และปลาโลมาสีชมพู หลายฝูง ฝูงละ6-7ตัว เล่นน้ำให้ชาวบ้านละแวกนั้นเห็นเป็นประจำ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของอ่าวสิชล

นายสันติ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าปลาโลมาที่เกยตื้นตายมีขนาดโตเต็มที่อาจจะบาดเจ็บ แล้วเจ็บป่วยแล้วถูกขับไล่ออกจากฝูง เพราะสัญชาติญาณของปลาโลมาหัวบากถ้าตัวไหนเจ็บป่วยจะถูกขับออกจากฝูงทันที เมื่อพลัดหลงจากฝูงแล้วน่าจะไปติดอวนเรือประมงอีก หรือถูกลูกเรือประมงทำร้ายก็เป็นได้