เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 57 เวลา 14.30 น. ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ในฐานะโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) เปิดเผยภายหลังประชุม มส.นัดพิเศษ ว่าการประชุม มส.นัดพิเศษเพื่อหารือเกี่ยวกับตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเพื่อให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้กล่าวสัตยาบรรณในการดำรงตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งที่ประชุม มส.ก็อนุโมทนา พร้อมทั้งรับทราบการเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
ด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า
สืบเนื่องจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 56 ส่งผลให้คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชได้สิ้นสุดลงด้วย รวมถึงยังส่งผลให้การสั่งการโดยประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชหรือการออกพระบัญชาต่างๆ ไม่ถูกต้อง ดังนั้น พศ.จึงเสนอให้ที่ประชุม มส.รับทราบ โดยแจ้งต่อคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชว่าคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชได้สิ้นสุดลง ดังนั้น พศ. ได้แจ้งชื่อสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสโดยสมณศักดิ์สูงสุด คือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิบัติตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535
ทั้งนี้ การที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้ให้สัตยาบันว่าการออกพระบัญชา คำสั่งตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา นั้นจะมีผลถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
และส่งผลให้ตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สำหรับหนังสือกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้วถือว่ากระบวนการตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงทำให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้จากการเตรียมงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช
ได้มีมติตั้งคณะกรรมการอำนวยการงานพระราชทานเพลิงพระศพขึ้นมา 1 ชุด พร้อมวางแผนงานเตรียมการในเบื้องต้นตามโบราณราชประเพณี ซึ่งจะมีการอัญเชิญพระศพ โดยซ่อมราชรถ พร้อมทั้งจะขอกำลังทหารมาร่วมขบวนพระอิสริยยศ ขณะเดียวกันจะมีการปรับปรุงลานพลับพลา บริเวณเมรุหลวงพลับอิสริยยศ วัดเทพศิรินทราวาส อีกทั้งจะมีการสร้างศาลารองรับพระภิกษุสงฆ์ที่คาดว่าจะมีเป็นจำนวนมาก