“น้องธันย์-ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์” แพ้คดี ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 112 ล้านบาท จากบริษัทเดินรถไฟฟ้า เอสเอ็มอาร์ที และการขนส่งทางบกสิงคโปร์ หลังพลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าจนถูกทับขาขาด 2 ข้าง โดยศาลสูงสิงคโปร์ระบุว่าจำเลยทั้งสองไม่มีความผิดฐานประมาทตามที่โจทก์อ้าง
จากกรณี น.ส.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือน้องธันย์ อายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ตรัง
ซึ่งเดินทางไปเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 54 แล้วเกิดประสบอุบัติเหตุ พลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ที่สถานีอัง โม เกียว จนถูกรถไฟฟ้าทับขาบาดเจ็บสาหัส และต้องตัดขาทิ้งทั้ง 2 ข้าง ต่อมาครอบครัวของ ด.ญ.ณิชชารีย์ ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทเดินรถไฟฟ้าเอสเอ็มอาร์ที และการขนส่งทางบกสิงคโปร์ เป็นเงิน 3.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 112 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า องค์กรทั้งสองไม่มีมาตรการดูแลความปลอดภัยผู้โดยสารบนสถานีรถไฟฟ้าอย่าง เพียงพอตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ม.ค. มีรายงานข่าวจากต่างประเทศ ว่า ทนายความของ น.ส.ณิชชารีย์
ได้เป็นตัวแทนเดินทางไปขึ้นศาลสูงสิงคโปร์เพื่อฟังคำพิพากษากรณีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากดังกล่าว ต่อมามีคำพิพากษาความยาว 81 หน้ากระดาษ ที่ศาลประกาศออกมา โดยผู้พิพากษา นายวิโนธ คูมาราสวามี ได้ปฏิเสธเหตุผลที่ฝ่ายโจทก์อ้างโดยชี้ว่า จากการตรวจสอบพบว่าสถานีรถไฟฟ้า อัง โม เกียว มีความปลอดภัยมากพอ ในช่วงเวลาที่ น.ส.ณิชชารีย์ พลัดตกลงไปจนถูกรถไฟทับขาดังนั้น บริษัทรถไฟฟ้าและการขนส่งทางบกสิงคโปร์ จึงไม่มีความผิดฐานประมาท
ผู้พิพากษา ระบุอีกว่า อาการบาดเจ็บของโจทก์ ถือเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนที่อายุเพียงเท่านี้ แต่การจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย จะต้องพิจารณาจากความผิดของจำเลยเป็นหลักไม่ใช่เพราะว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บ.