ทีมสัตวแพทย์ลุ้นระทึกหมีแพนด้าหลินฮุ่ยคลอด ล่าสุดฮฮร์โมนตก เริ่มเลียอวัยวะเพศและเจอกระดูกสันหลังของตัวอ่อนแล้ว แต่ยังไม่รู้เพศ เชื่อหมีพร้อมคลอดตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 2 ม.ค.เวลา10.30 น.นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัฒน์ ศิริอรุณรัตน์ สัตวแพทย์ผสมเทียมแพนด้ากล่าว
ถึงความคืบหน้าเรื่องการตั้งท้องของหมีแพนด้า หลินฮุ่ย ว่าแพนด้าเพศเมียหลินฮุ่ยท้อง ระยะครรภ์ 95 วันล่าสุดมีพฤติกรรมแสดงว่าใกล้คลอดแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่เตรียมการพร้อมรับการคลอดตลอดเวลา ซึ่งผลการตรวจอัลตราซาวน์ในช่วงเช้าวันนี้ได้พบตัวอ่อนมีพัฒนาการต่อเนื่อง มีขนาดขยายใหญ่ขึ้น ประมาณ 4 - 5 เซ็นติเมตร แต่ยังไม่พบหัวใจและสัญญาณการเต้นของหัวใจซึ่งอาจเป็นเพราะตัวอ่อนยังพัฒนาไม่เต็มที่ และหัวใจมีขนาดเล็กมาก ในส่วนพฤติกรรมของหลินฮุ่ยส่งสัญญาณใกล้คลอดเต็มที่ โดยพบพฤติกรรมทำรังหลายครั้งขณะที่สรีระยังเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน โดยเต้านมใหญ่ขึ้น อวัยวะเพศขยายและที่เห็นและมีความหวังมากขึ้นก็คือการที่วันนี้ได้เห็นกระดูกสันหลังของตัวอ่อนที่ฝังตัวแล้วนอกจากนี้ก็ยังได้เห็นการเลียอวัยวะเพศที่หลินฮุ่ยทำด้วยเพราะช่วงก่อนที่จะคลอดหลินปิงก็มีพฤติกรรมการเลียอวัยวะเพศให้เห็น
นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนผ่านจุดสงสุดไปที่ 490 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริเอทีนิน และขณะนี้ฮอร์โมนดังกล่าวได้อยู่ในช่วงขาลง
ซึ่งล่าสุดตรวจวัดฮอร์โมนได้ 345 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริเอทีนิน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงว่า หมีแพนด้าใกล้คลอด ซึ่งระดับฮอร์โมนต้องตกลง การตกของฮอร์โมนจะไม่มีการตกแบบรวดเร็ว แต่จะค่อยๆ ตกลง ดังนั้นทางทีมสัตวแพทย์ก็ได้มีการตรวจฮอร์โมนทุกวันเพื่อเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา และก็ดูแลอย่างเต็มที่ รวมทั้งเพิ่มวิตามินเพื่อให้รางกายสมบูรณ์ที่สุดแต่สิ่งที่หลายคนถามว่าจะทราบได้หรือไม่ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมียจากการอัลตราซาวน์ ในเรื่องนี้ถือว่ายากมากไม่สามารถเห็นได้เพราะตัวอ่อนมีขนาดเล็กเพียงไม่กี่เซ็นติเมตรเมื่อเทียบกับคนแล้วถือว่าเล็กกว่าหลายร้อยเท่า ดังนั้นต้องรอดูหลังจากที่คลอดออกมาประมาณ1 อาทิตย์แล้วจึงจะทราบเพศแต่ขณะนี้ต้องรอถึงช่วงที่คลอดออกมาก่อน
ส่วนการอัลตราซาวน์นั้นทางทีมสัตวแพทย์อยากจะทำทุกวัน
เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของหมีแพนด้าได้เพราะช่วงที่หลินฮุ่ยตั้งท้องหลินปิงนั้น ยังไม่ได้มีการติดตามการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์ได้เหมือนในครั้งนี้แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวหลินฮุ่ยด้วยว่า พร้อมที่จะให้ตรวจทุกวันหรือไม่หากหลินฮุ่ยไม่ยอม ก็จะไม่มีการบังคับ เพราะไม่อยากให้หลินฮุ่ย เกิดความเครียด ซึ่งจะส่งผลกระทบและอาจจะแท้งลูกได้ ดังนั้นทางทีมสัตวแพทย์จะต้องตามใจหลินฮุ่ยไม่ให้เกิดความเครียดใดๆ ในช่วงนี้และจะไม่ให้ใครเข้าใกล้หลินฮุ่ยรวมถึงผู้สื่อข่าวด้วย เพราะกลัวว่าหากคนที่หลินฮุ่ยไม่คุ้นเคยเข้าไปใกล้แล้วจะเกิดความเครียดมากกว่านี้แต่จะมีการตั้งมอนิเตอร์ไว้ให้กับผู้สื่อข่าวและนักท่องเที่ยวได้ติดตามความเคลื่อนไหว โดยขณะนี้ได้เร่งดำเนินการแล้วคาดว่าในวันพรุ่งนี้ก็สามารถที่จะดูผ่านจอมอนิเตอร์ได้
นายสัตวแพทย์ ดร.บรติพัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่าสำหรับการคาดหวังและลุ้นให้หลินฮุ่ยคลอดลูกให้ตรงกับวันเด็กแห่งชาติ คือวันที่ 11 ม.ค. นั้น
ขณะนี้ก็มีการคาดเดากันไปหลายฝ่ายทั้งตัวทีมสัตวแพทย์ และทางพี่เลี้ยง ซึ่งก็คาดไว้ว่าหลินฮุ่ยอาจจะคลอดก่อนหรือคลอดตรงกับวันดังกล่าวแต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวหลินฮุ่ยด้วยว่าพร้อมเมื่อไหร่ เนื่องจากหมีแพนด้ามีระยะการตั้งท้องไม่เท่ากัน ถึงแม้จะเคยมีลูกมาแล้วแต่การคลอดก็จะไม่ตรงกันเสมอไป บางตัวสูงสุดใช้เวลาตั้งท้องถึง 6 เดือน และหากเลยจากวันเด็กแห่งชาติไป และยังไม่คลอดก็อาจยาวไปถึงช่วงตรุษจีนก็เป็นได้แต่ตอนนี้ต้องทำให้หลินฮุ่ยผ่อนคลายและไม่เกิดความเครียดมากที่สุด แม้แต่ทางพี่เลี้ยงเองบางครั้งก็ยังเข้าไปใกล้หลินฮุ่ยไม่ได้เช่นกัน เพราะดูจากการที่หลินฮุ่ยได้เลียอวัยวะเพศเพื่อทำความสะอาดเหมือนกับการเตรียมตัวจะคลอด พอเห็นพี่เลี้ยงเข้าไป ก็หยุดทำทันทีดังนั้นทางทีมสัตวแพทย์จะได้ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มในมุมต่างๆเพื่อให้เห็นพฤติกรรมได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเข้าไปใกล้ๆ
และหลังจากที่หลินฮุ่ยคลอดแล้ว คาดว่า ก็จะให้นักท่องเที่ยวได้ชมการตรวจสุขภาพของลูกหมีที่เกิดใหม่เหมือนช่วงหลินปิง
ซึ่งทางพี่เลี้ยงได้เขียนแบบแปลนในการปรับปรุงสถานที่ และนำเสนอให้กับทางผู้บริหารทราบแล้ว เพราะช่วงของหลินปิงที่เปิดให้นักท่องเที่ยวชมนั้น มีผู้ชมจำนวนมาก ดังนั้นในครั้งนี้อาจมีการปรับเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมมากขึ้นและเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ที่สามารถตรวจสุขภาพด้วยโดยจะทำเป็นห้องกระจกออกมา และนำรั้วกั้นออก ลักษณะคล้ายกับสถานที่ดูแลหมีแพนด้าที่ประเทศจีนแต่ขณะนี้ต้องรอทางผู้บริหารเห็นชอบก่อนจึงจะมีการปรับปรุงสถานที่ได้หากไม่มีการปรับปรุงก็คงต้องเข้าแถวเพื่อรอชมแบบเดิม
ส่วนเรื่องที่ว่าทางจังหวัดขอนแก่นจะมีการนำหมีแพนด้ามาเลี้ยงเหมือนกับที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นในเรื่องนี้ตนก็พอจะทราบมาบ้าง
เพราะทางหอการค้าจังหวัดขอนแก่นและทางจังหวัดขอนแก่นนั้น ถือว่ามีความสนิทสนมกับทางจีนและเรื่องนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันมาสักระยะแล้ว แต่ทราบว่าจะมีการขอจากจีนโดยตรง โดยไม่มีการนำหมีแพนด้าของสวนสัตว์เชียงใหม่ไปซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถให้ความเห็นอื่นได้เพราะว่าเป็นการพูดคุยกับของทางจังหวัดขอนแก่นที่ดำเนินการขอกับทางองค์การสวนสัตว์และประสานกับทางจีน ทางตนและทีมสัตวแพทย์ในขณะนี้เป็นเพียงผู้ปฏิบัติเท่านั้น แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้เช่นกันสำหรับเรื่องนี้
ส่วนเรื่องสัญญาของหลินปิงที่จะกลับมา ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลและทางสภาฯที่จะต้องดำเนินการ
ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในช่วงการเจรจาอยู่เนื่องจากสัญญาจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่แล้วทางองค์การสวนสัตว์ก็กำลังจะขอขยายเวลาการอยู่ของช่วงช่วงและหลินฮุ่ยเพิ่มขึ้น เพราะจะต้องเลี้ยงลูกตัวใหม่ที่กำลังจะเกิดมาส่วนหลินปิงนั้นช่วงสิ้นปี 56 ที่ผ่านมาก็ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขณะนี้ก็ยังอยู่ในส่วนจัดแสดงเพียงตัวเดียว เพื่อรอการเข้าสู่ช่วงการเลือกคู่ที่น่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนม.ค.หรือต้นเดือน ก.พ.นี้ซึ่งถึงช่วงการเลือกคู่แล้วทางจีนจะแจ้งมาให้ทีมสัตวแพทย์ที่นี่ทราบอีกครั้งหนึ่งและหากหลินปิงได้กลับมาพร้อมคู่จริงๆ ภายใน 1 ปีเหมือนที่มีการคุยกันไว้ ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ ไม่สามารถรับหมีแพนด้าพร้อมกันได้ 5 ตัวแน่นอน ดังนั้นจำเป็นต้องมีการขยายคอกกักและสถานที่เพิ่ม ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องพูดคุยกันอีกครั้งเพราะเป็นเรื่องของทางคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์กำลังพิจารณาและดำเนินการอยู่